เที่ยวระยอง 2 วัน 1 คืน ไปไหนดี? เน้นพักผ่อนแบบชิลล์ๆ 2 วัน 1 คืน

หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนก็มักจะมองหาที่เที่ยวเพื่อสร้างทริปพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือหาวันหยุดพักผ่อนไม่นานประมาณ  2 วัน 1 คืน

เมืองระยอง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางสำคัญที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แถมการเดินทางก็สะดวกสบาย มีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือกได้ทั้งป่าเขา ทะเล ร้านอาหาร ที่พัก โรงแรมเพื่อเติมเต็มวันพักผ่อนกันอย่างเต็มที่

ทริปนี้เรามีที่เที่ยวระยองสวยๆ หลากหลายสไตล์  มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ที่กำลังหาข้อมูลกัน

แต่จะมีสถานที่ไหนน่าสนใจ น่าตามรอยไปเช็กอินกันบ้าง ตามไปชมพร้อมกันเลย

1. พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ

ที่ตั้ง : ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง

มาเริ่มต้นกันที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์พระเจดีย์กลางน้ำเป็นที่เคารพสักการะของชาวระยองตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน และในคืนวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี ที่นี่จะมีการจัดงานประเพณี “งานห่มผ้าเจดีย์กลางน้ำ” เพื่อเป็นการสักการะ บูชาองค์พระเจดีย์ โดยมีขบวนแห่มาทางแม่น้ำซึ่งในพิธีจะมีการใช้ผ้าสีแดง ความยาว 6 ม. ห่มองค์เจดีย์ตรงเรือนทาสทรงระฆังคว่ำไว้

เมื่อเดินเข้าไปยังภายในบริเวณพระเจดีย์จะพบความสวยงามของ เจดีย์ทรงระฆังฐานกลม ส่วนยอดมีบัลลังก์สี่เหลี่ยม และเสาหานรองรับปล้องไฉน ปลียอดส่วนบนเป็นเม็ดน้ำค้าง ความสูงประมาณ 10 ม. มีระเบียงล้อมรอบองค์ระฆัง 2 ชั้น มีบันไดขึ้น 2 ข้าง ลานด้านล่างโดยรอบปูด้วยกระเบื้องดินเผาสีอิฐ

ด้านหนึ่งของพระเจดีย์กลางน้ำติดลำน้ำระยอง ส่วนอีกด้านเป็นส่วนที่ติดกับป่าชายเลน ซึ่งเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศของป่าชายเลน ภายใต้ชื่อ “ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลน พระเจดีย์กลางน้ำ” มีลักษณะเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีระยะทางประมาณ 200 ม. เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้เที่ยวถึง 2 ที่เลยก็ว่าได้

2. ถนนยมจินดา

ที่ตั้ง : ถ.ยมจินดา ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง

ย่านชุมชนเก่าแก่ที่ยังคงมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไว้อย่างเหนี่ยวแน่น แห่งเมืองระยองคือ “ถนนยมจินดา” เส้นทางสายหลักที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ในอดีตซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ คึกคักไปด้วยผู้คน

ปัจจุบันก็ได้มีการปรับปรุงอนุรักษ์บ้านเรือน และวิถีชีวิตบอกผ่านเรื่องราวในอดีตจนกลายเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่ไม่ควรพลาดเมืองเดินทางมาเยือนเมืองระยอง

ไฮไลท์ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่ นั่งจิบกาแฟกับบรรยากาศเก่า ๆ, ชิมเมนูอาหารคาว-หวานหาทานยาก, ชมร้านค้าเก่าแก่ริมถนนยมจินดา, ชมตึกกี่พง,ตึกเถ้าแก่เทียนในสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานแบบชิโน-โปรตุกีส ได้อย่างลงตัว

พร้อมเรียนรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์เมืองระยองกับเรื่องราวของคนระยองได้อีกด้วย

3. สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ที่ตั้ง : ต.มาบข่า อ.เมือง จ.ระยอง

โทรศัพท์ : 038 915 213, 084 930 6060

เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี-จระยอง-1497351050480926/

แวะมาเที่ยวสถานที่ร่มรื่นเติมเต็มความสดชื่นให้แก่ชีวิตกันที่ “สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”

สวนแห่งการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรของชาติ ให้เกิดประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลัง โดยสวนแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อปี 2527-2528 บนเนื้อที่ 60 ไร่

ภายในสวนมีการรวบรวมสมุนไพรพันธุ์ต่าง ๆ มาปลูกไว้เป็นจำนวนมาก และทาง ปตท. ผู้ริเริ่มการจัดตั้งสวนแห่งนี้ก็ได้น้อมเกล้าฯ ถวายสวนสมุนไพรแห่งนี้แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2528 ซึ่งในช่วงต่อมาก็ได้มีการพัฒนาสถานที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ และปลูกต้นไม้เพิ่มเติม เพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 50 พรรษา

สำหรับภายในสวนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ “สวนสมุนไพร” ที่รวบรวมพันธุ์สมุนไพรมากกว่า 260 ชนิด ประมาณ 20,0000 ต้น มาปลูกไว้ที่สวนโดยแบ่งประเภทของสมุนไพรตามสรรพคุณในการรักษาโรค เอาไว้ถึง 20 กลุ่ม นอกจากจะเปิดที่นี่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสวนสำหรับพักผ่อนแล้ว ยังถือเป็นพื้นที่สำคัญในการอนุรักษ์พืชสมุนไพรอีกด้วย

ส่วนถัดมาก็คือบริเวณ “อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา” ซึ่งเป็นสถานที่แสดงนิทรรศการผ่านสื่อหลายรูปแบบ ที่ให้ความรู้ ดูสนุก ชวนติดตาม กระตุ้นให้เกิดความสนใจ ค้นหาความรู้ โดยแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ ดังนี้ ห้องการเดินทางของลูกยาง, ห้องเจ้าฟ้านักอนุรักษ์, ห้องพลังงานที่ยั่งยืนของไทย, บ้านหมอยา, กินตามธาตุ และโลกของพืชสมุนไพร

เวลาเปิดทำการของที่นี่ คือ เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดทำการทุกวันจันทร์) ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม กิจกรรมนั่งรถ NGV ชมสวนสมุนไพรและเยี่ยมชมนิทรรศการความรู้ต่าง ๆ ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.

อีกทั้งยังมีส่วนบริการต่างๆ ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายของที่ระลึก เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-16.30 น. รวมไปถึงร้านนวดเพื่อสุขภาพ เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00-19.00 น. อีกด้วย

4. หาดแหลมแม่พิมพ์

ที่ตั้ง : อ.เมือง จ.ระยอง

เมื่อพูดถึงความน่าสนใจของ หาดแม่พิมพ์ คงหนีไม่พ้น แหลมแม่พิมพ์ แหลมที่ยื่นไปในทะเลที่มีน้ำใสบรรยากาศดี แต่ยังไม่เหมาะกับการเล่นน้ำเพราะมีโขดหินเยอะ

แต่นักท่องเที่ยวสามารถดินทางไปเล่นได้ที่หาดบ้านเพ ชายหาดที่ติดกับแหลมแม่พิมพ์ สามารถเล่นน้ำทะเลได้ คลื่นไม่แรงแถมบริเวณนี้มีรีสอร์ทสวย ๆ ให้เลือกเยอะแยะ

ส่วนความยาวของตัวชายหาดอยู่ที่ 4 กม. ถือเป็นอีกหนึ่งชายหาดที่ยังคงความครึกครื้นในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์อยู่เสมอ เพราะด้วยที่ตั้งที่ใกล้ เดินทางสะดวกใช้เวลาไม่นาน

อีกทั้งยังเป็นชายหาดที่เติมเต็มวามร่มรื่นด้วยทิวต้นหูกลางสลับกับต้นสน สามารถแวะจอดรถตามจุดต่าง ๆ ได้สะดวก แถมบริเวณใกล้ ๆกันยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ที่พัก รีสอร์ท และร้านขายของฝาก ตลอดจนร้านนวดเป็นจำนวนมาก

5. พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง

ที่ตั้ง : 162/6 ม.5 ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง

เปิดปิดเวลา : เปิดทุกวัน เวลา 09.00–16.00 น. 

โทรศัพท์ : 087 129 9405 

เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง-1562708624046135/

ชวนย้อนอดีตแวะไปทำความรู้จักกับเมืองแกลงให้มาขึ้นผ่านตลาดของเก่า ที่นี่ถือเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ ที่ได้รวบรวมเอาของเก่าของสะสมของเก่า ของเล่น ข้าวของเครื่องใช้โบราณและรถเก่า  ครูกัง เจ้าของพิพิธภัณฑ์มาจัดแสดงไว้ภายในบ้านที่มีการปรับปรุงใหม่ ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บของเก่าขนาดใหญ่ขึ้น

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่จะต้องเสียค่าเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่ราคา 80 บาท, เด็ก 30 บาท และชาวต่างชาติ ราคา 150 บาท

 

6. อุทยานเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด

ที่ตั้ง : 79 ม.1 บ.ก้นอ่าว ถ.หาดแม่รำพึง-เพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง

โทรศัพท์ : 038 653 034

ชวนไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์สุดประทับใจในอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดของระยอง และเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งที่ 3 ของประเทศไทย

ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมาย อาทิ เกาะเสม็ด, เกาะจันทร, เกาะกุฎี, เกาะขาม, เกาะกรวย, เกาะปลายตีน, เกาะทะลุ และเกาะท้ายค้างคาว

ส่วนไฮไลท์ที่น่าสนใจของอุทยานฯ แห่งนี้นั่นก็คือ เกาะเสม็ด ที่บนเกาะเต็มไปด้วยโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหาร อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก แถมบนเกาะยังมีถนนคอนกรีตและถนนดิน ให้นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถขับเที่ยวหรือใช้บริการรถสองแถว ซึ่งมีให้เลือกจากท่าเรือ ไปตามหาดต่าง ๆ และสิ้นสุดที่อ่าวปะการังอีกด้วย

ส่วนกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติในเส้นทางที่อุทยานฯ จัดเตรียมไว้ โดยมีทั้งสิ้น 3 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ เส้นทางเกาะเสม็ด, เส้นทางเกาะกุฎี และเส้นทางเขาแหลมหญ้า แต่ละเส้นทางต่างมีเอกลักษณ์ในตนเองและนักท่องเที่ยวจะได้สนุกกับการเรียนรู้พันธุ์ไม้นานาชนิด ยิ่งกว่านั้นทุกเส้นทางยัง

มีจุดชมวิวที่น่าประทับใจ  รวมไปถึงกิจกรรมทางทะเลอื่น ๆ เช่น นั่งเรือชมทัศนียภาพรอบเกาะและเกาะต่าง ๆ รายรอบ ดำน้ำดูปะการัง เจ็ตสกี วินด์เซิร์ฟ เป็นต้น

7. อนุสาวรีย์สุนทรภู่

ที่ตั้ง : 153/4 ถ.สุขุมวิท ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง

อนุสาวรีย์แห่งกวีเอกผู้เป็นตำนานของเมืองไทย ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสุนทรภู่ กวีในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ผู้สร้างสรรค์บทประพันธ์อันทรงคุณค่ามากมาย และกล่าวกันว่าเระยองนั้นคือบ้านเกิดของบิดาของศิลปินเอกสุนทรภู่นั่นเอง

สำหรับอนุสาวรีย์แห่งนี้เปิดเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2513 บริเวณโดยรอบน่าสนใจด้วยการจัดแสดงรูปปั้นของตัวละครเอกจากวรรณคดีชื่อก้องเรื่องพระอภัยมณี และในวันที่ 26 มิ.ย. ของทุกปี จะมีการจัดงานรำลึกสุนทรภู่ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีทางด้านวรรณกรรมของท่านที่ได้สร้างไว้ ให้แก่แผ่นดินไทย

8. เกาะเสม็ด

ที่ตั้ง : ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง

“เกาะเสม็ด” ถือเป็นเพชรเม็ดงามแห่งอ่าวไทยและเกาะสำคัญที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปพักผ่อนเสมอ ด้วยระยะห่างจากชายฝั่งบ้านเพียง 6.5 กม. ใช้เวลาเดินทางเรือโดยสาร 30 นาทีโดยประมาณ อีกทั้งยังมีเรือข้ามไปยังเกาะตลอด 24 ชม. (เรือออกทุกครึ่งชม.)

เมื่อขึ้นไปบนเกาะนักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกการเดินทางได้ถึง 2 รูปแบบ คือนั่งรถสองแถวและเช่ามอเตอร์ไซค์ ซึ่งสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้งไป-กลับและค้างคืน พื้นที่บนเกาะก็มีทั้งสถานทีท่องเที่ยว ชมวิวสวย ๆ ในมุมสูง ดูพระอาทิตย์ขึ้น-ตกได้อย่างโรแมนติก มีที่พัก ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ให้เลือกอย่างจุใจ

อีกหนึ่งเหตุผลที่นักท่องเที่ยวมักจะเลือกเกาะเสม็ดเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวทะเลในช่วงหน้าร้อนก็คือ ธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม ชายหาดขาวเนื้อทรายละเอียด น้ำทะเลที่ยังคงใสสะอาดเหมาะสำหรับลงเล่นน้ำและมีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกทำ

แถมค่าใช้จ่ายทั้งทริปก็ไม่แพงอีกด้วย ส่วนหาดทรายสำคัญบนเกาะที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ หาดทรายแก้ว, อ่าวน้อยหน่า, อ่าวลูกโยน, อ่าวไผ่, อ่าวพุทรา, อ่าวทับทิม, อ่าวลุงดำ, เป็นต้น

9. สะพานรักษ์แสม

ที่ตั้ง : ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง

“สะพานรักษ์แสม” แหล่งท่องเที่ยวที่น่าจดจำในเมืองระยอง โดดเด่นด้วยสะพานแขวนพื้นไม้ความยาวประมาณ 100 ม. พร้อมด้วยจุดชมทัศนียภาพและระบบนิเวศน์ กับสะพานไม้เส้นทางเดินท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่สร้างเป็นทางเดินทอดยาวเข้าไปยังภายในป่าชายเลนบริเวณคลองท่าตาโบ๊ย

หนึ่งในจุดชมวิวที่คุณสามารถเดินชมความงดงามของธรรมชาติ ชมการอยู่อาศัยของปูแสม สัมผัสความสงบและความสมบูรณ์ของป่าชายเลน ส่วนการเดินทางเข้าไปเที่ยวยัง “สะพานรักษ์แสม” ที่นี้อยู่ในแหล่งชุมชน ถนนที่เข้าไปเป็นทางแคบ นักท่องเที่ยวควรขับรถอย่างช้า ๆ อย่างระมัดระวังมาก ๆ

10. อ่างเก็บน้ำดอกกราย

ที่ตั้ง : ม.6 ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

เปิดท้ายกันที่ “อ่างเก็บน้ำดอกกราย” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งใน จ.ระยอง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จมาที่แห่งนี้ และทอดพระเนตรศูนย์ศึกษาการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ อ.ปลวกแดง ทรงปล่อยปลานิล ปลายี่สกเทศ ปลากาดำ และกุ้งก้ามกราม ลงในอ่างเก็บน้ำดอกกราย และทรงเสด็จเยี่ยมศูนย์กลางการพัฒนาเกษตรและศิลปาชีพพิเศษ

และที่สำคัญคือ ทรงพระราชทานแนวทางการพัฒนาไว้ 4 ข้อ คือ พัฒนาด้านปศุสัตว์เพื่อการอุปโภคและบริโภค, ส่งเสริมด้านการประกอบอาชีพ เพื่อให้เกษตรกรปลูกบ้านพร้อมกับประกอบอาชีพทำกินในพื้นที่ 4 ไร่, ด้านการส่งเสริมการเลี้ยงปศุสัตว์ เพื่อให้เกษตรกรยืมสัตว์ไปเลี้ยงแล้วส่งลูกคืน และเพิ่มเติมด้านการจัดการไร่นา เพื่อนำไปปรับปรุงไร่นาของตนเอง หลังจากทรงเสด็จเยี่ยมในครั้งนั้น  ผืนแผ่นดินที่เคยแห้งแล้ง  ผืนดินที่เคยมีแต่ปัญหาดินเสื่อมสภาพ

ซึ่งปัจจุบัน “อ่างเก็บน้ำดอกกราย” แห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ให้ทั้งความชุ่มชื่นและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด ทุ่งนาข้าวสีเหลืองทองอร่าม ทุ่งดอกทานตะวันสวยเบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยว แถมบริเวณสันเขื่อนยังเหมาะสำหรับวิ่ง และปั่นจักรยานออกกำลังกายอีกด้วย

เรียกได้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ล้วนน่าสนใจเหมาะที่จะจัดอยู่ในลิสต์เที่ยว 2 วัน 1 คืน แบบพอดี ๆ เลยก็ว่าได้ ว่าแล้ววันหยุดใกล้จะถึงนี้ ลองหยุดงานให้หายเครียดสักพักแล้วไปผ่อนคลายเบา ๆ ที่ระยอง กันดีกว่าจ้าาา