50 ที่เที่ยวธรรมชาติสวยภาคตะวันออก เที่ยวสบายใกล้ชิดธรรมชาติ

ทริปนี้เราจะพาทุกท่านไปตะลุยที่เที่ยวธรรมชาติสวยๆ ในภาคตะวันออก เราคัดเฉพาะสถานที่เด็ดๆ มาฝากถึง 50 สถานที่ จาก 9 จังหวัดในภาคตะวันออก ไล่ตั้งแต่สมุทรปราการ ไปจนสุดที่จังหวัดตราด

บอกเลยว่ามีครบ ภูเขา ทะเล เกาะแก่งสวยๆ กลางทะเลอ่าวไทย เรารวมมาให้ครบ !

1.อ่างเก็บน้ำห้วยตาโบ

อ่างเก็บน้ำห้วยตาโบ หรือที่บางคนเปรียบเป็นปางอุ๋งแห่งจันทบุรีตั้งอยู่ในเขตหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 2

ท่ามกลางความงดงามของทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาและป่าไม้อุดมสมบูรณ์ เรียกว่ามองไปก็คล้ายคลึงกับวิวของปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน ไม่น้อย มีทั้งจุดให้ชมวิว ถ่ายรูปกับอ่างเก็บน้ำและขุนเขาได้อย่างเต็มๆ ตา และนอกจากจะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เข้าไปเดินชมป่าแล้ว

ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบเต็มอิ่มก็สามารถกางเต๊นท์ที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำได้ กลางคืนนอนมองดาวเต็มฟ้า ยามเช้าบางวันตื่นมาอาจได้พบกับสายหมอกลอยเรี่ยผืนน้ำและคลุมผืนป่า สวยงามจนนึกว่าอยู่ปางอุ๋งจริงๆ เข้าไปอีก

ที่ตั้ง : .มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี

เวลาเปิดปิด : 06:00-18:00 . เปิดทุกวัน

โทรศัพท์ : 039 434 528

2.น้ำตกพลิ้ว

อยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดปี ท่ามกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ สามารถลงเล่นน้ำได้จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มีปลาพลวงอากาศอยู่เป็นจำนวนมาก บริเวณน้ำตกมีโบราณสถานสำคัญคือ อลงกรณ์เจดีย์สร้างขึ้นเมื่อครั้ง ร.5 เสด็จประพาสจันทบุรี และปิรามิดพระนางเรือล่ม ร.5 ทรงโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้า สุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี

ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี

3.ทุเรียนแลนด์

ทุเรียนแลนด์สวนทุเรียนขนาดใหญ่นับพันไร่ ที่ปลูกทุเรียนไทยสี่สิบกว่าสายพันธุ์ เพื่อการส่งออก และเพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์ทุเรียนดั้งเดิมเอาไว้

พูดแค่นี้หลายคนคงจะงงว่าทำไมจะต้องพาไปเที่ยวสวนทุเรียนด้วยแต่จะบอกว่าที่สวนทุเรียนแลนด์มันมีอะไรที่มากกว่านั้นจนคุณจะต้องแปลกใจเลยล่ะ

บอกเลยว่ามาที่นี่ มาที่เดียว เที่ยวได้ครบ มีทั้ง สวนทุเรียนนับพันไร่ พระแม่ธรณีบีบมวยผมใหญ่ที่สุดในโลก ที่สูงกว่า 30 เมตร ตั้งอยู๋บนยอดเขาโดดเด่นเป็นสง่า มองเห็นได้แต่ไกล มี  “Durio Cafe”  คาเฟ่สุดชิลล์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ให้ได้มานั่งพักผ่อนชิลล์ๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจ มีฐานกิจกรรมแอดเวนเจอร์ อย่าง ซิปไลน์ มากถึง 20 ฐาน ไว้รองรับคนที่ชอบความตื่นเต้น ท้าทาย หรือจะมาขับรถ ATV ตะลุยสวนทุเรียน อันนี้ก็น่าสนุก หรือถ้าเกิดติดใจ จะมานอนพักสบายๆ ในห้องพักบนยอดเขาของที่นี่ ชมบรรยากาศยามเช้าที่มีสายหมอกพักผ่าน ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ

ที่ตั้ง : .มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี

4.หาดเจ้าหลาว

ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นชายหาดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ดินเนอร์ รวมไปถึงการจัดงานฉลองแต่งงานริมทะเลเบา ๆ หาดเจ้าหลาว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว เพราะน้ำทะเลที่ใสรายล้อมไปด้วยความร่มรื่นใต้ต้นมะพร้าวน้อยใหญ่ สามารถเดินเล่นรับลมเย็น ๆ ได้เป็นอย่างดี

ส่วนความยาวของหาดเจ้าหลาวนั้นมีลักษณะทอดยาวไปถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน จึงมีกิจกรรมทางน้ำให้สนุกกันมากมาย อาทิ บานาน่าโบ๊ทและการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น รวมไปถึงการใช้บริการเรือท้องกระจกเพื่อนั่งชมความงามของท้องทะเล

ที่ตั้ง : .เฉลิมบูรพาชลทิต ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

5.หาดแหลมสิงห์

หาดแหลมสิงห์ มีความโดดเด่นมากในเรื่องความสวยงามของหาดทราย โขดหิน น้ำทะเลใสสะอาด แถมอากาศบริสุทธิ์ ชวนให้เดินทางมาสัมผัสธรรมชาติ และยลโฉมความสวยงามของชายหาดแบบ  ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก ที่นี่โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์กโขดหินที่มีรูปร่างคล้ายกับสิงโต จนเป็นที่มาของชื่อแหลมสิงห์ นั่นเอง

ที่ตั้ง : .ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์

6.น้ำตกกระทิง

น้ำตกกระทิง หลายคนรู้จักเขาคิชฌกูฎจากรอยพระพุทธบาท แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าบริเวณนี้คือพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ ซึ่งมี น้ำตกกระทิง หนึ่งในต้นน้ำลำธารสำคัญแห่งหนึ่งของ จ.จันทบุรี

น้ำตกกระทิงมีความสูงทั้งหมด 13 ชั้น เมื่อมาถึงน้ำตกจะได้ยินเสียงน้ำไหลดังก้องอยู่ไม่ไกล ซึ่งนั่นคือเสียงจากน้ำตกชั้นที่ 1-3 โดยบริเวณชั้นที่ 3 จะมีสะพานพาดผ่านน้ำตกให้เดินเข้าไปชมใกล้ๆ แถมเป็นมุมถ่ายรูุปด้วย บริเวณนี้มีแอ่งน้ำที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้

และถ้ามาช่วงน้ำใสจะเห็นปลาพลวงกำลังแหวกว่ายอยู่หลายตัว ใครที่อยากมาแค่ชมน้ำตกสามารถนั่งชิลๆ ตามโต๊ะเก้าอี้ที่ทางอุทยานจัดให้ได้ นอกจากนี้ ไม่ไกลยังมีอ่างเก็บน้ำ ที่สามารถเช่าเรือถีบหรือพายเรือเล่นได้ รวมทั้งมีบริเวณกางเต๊นท์ และบ้านพักให้บริการด้วย

แต่ถ้าเพิ่มความท้าทายก็มีทางเดินขึ้นไปในป่า ลัดเลาะเลียบน้ำตกไปเรื่อยๆ ซึ่งมีจุดชมวิวอยู่ระหว่างชั้น 5-8 แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพธรรมชาติ เพราะบางทีฝนตกหนัก ต้นไม้ล้มปิดทาง หรือเติบโตขึ้นมาบดบังวิวก็อาจจะได้เห็นผ่านช่องเล็กๆ แทน

แต่ตลอดเส้นทางขึ้นน้ำตกกระทิงก็เต็มไปด้วยพรรณไม้ร่มรื่นตลอดสองข้างทาง มีไม้ทั้งยืนต้น มอส ไผ่ หรือกระทั่งเห็ดขึ้นตามขอนไม้ให้คอยสังเกตเพลินๆ ส่วนชั้นที่มองเห็นน้ำตกไหลลงมาจากผาสูงอย่างสวยงามอยู่ที่ชั้น 8-9 โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนน้ำจะเยอะและฟุ้งการจายอย่างอลังการ มีแอ่งน้ำที่ไม่ลึกมาก เหมาะให้กระโจนลงไปเล่นน้ำให้หายเหนื่อย เส้นทางนี้เดินไปกลับใช้เวลาประมาณ 3 ชัวโมง แบบไม่รวมเวลาเล่นน้ำ

ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเขาคิชกูฎ ต.พลวง อ.เขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี

เวลาเปิดปิด : 08:00-17:30 . ทุกวัน

โทรศัพท์ : 039 452 074

7.น้ำตกเขาสอยดาว

น้ำตกเขาสอยดาว เป็นน้ำตกที่คนรักการผจญภัยเดินป่าจะต้องหลงรัก

แต่ก่อนจะมาเดินขึ้นก็ต้องฟิตร่างกาย และเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมกันซักหน่อย เพราะหนทางมีทั้งเดินตามเทรลธรรมชาติไปจนถึงปีนป่ายลัดเลาะตามหน้าผา ยิ่งมาช่วงฝนก็จะได้ตื่นเต้นกับทากตัวน้อยที่อาจคืบคลานเข้าร่มผ้าแบบไม่รู้ตัว

เพราะฉะนั้นถุงและสเปรย์กันทาก รวมทั้งถุงกันน้ำใส่ของและเสื้อกันฝน จึงต้องมีพร้อมก่อนออกเดินทาง โดยช่วงเวลาที่เหมาะคือ มาขึ้นตอนเช้า เดินออกจากป่าก่อน 15:30 . และพึงระลึกไว้เสมอว่าเจ้าถิ่นที่นี่คือช้างป่า เพราะฉะนั้นการเดินขึ้นน้ำตกเขาสอยดาวจะต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เป็นผู้นำทาง

น้ำตกเขาสอยดาวมีทั้งหมด 16 ชั้น แต่เปิดให้ชมได้ถึงชั้นที่ 9 อยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตป่าลึกจึงยังมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอยู่มาก โดยตลอดระยะทางเดินป่ากว่า 2 กิโลเมตร จะมีจุดที่น่าสนใจให้ชมและผจญภัยไปตลอดเส้นทาง จุดแรกคือต้นตะเคียนทองอายุนับร้อยปีที่มีคนศรัทธานำชุดไทยมาถวาย เดินต่อไปจะเจอกับต้นพระเจ้าห้าพระองค์ขนาดหลายคนโอบ จุดต่อไปที่ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จะเจอน้ำตกชั้น 5 หรือผางาช้าง อยู่ท่ามกลางต้นไม้ที่ขึ้นหนาแน่น

จากนั้นอีก 100 เมตร จะเจอกับน้ำตกชั้น 6 หรือผานางลื่น ซึ่งมีลักษณะเป็นโขดหินขนาดใหญ่และกว้าง ทำให้สายน้ำแผ่ไหลลงมาเป็นม่านอย่างสวยงาม จากนั้นเส้นทางจะสมบุกสมบันมากขึ้น จากที่ต้องเดินป่า ข้ามลำธาร และท่อนซุง จะเพิ่มการปีนป่ายไปตามเส้นทางดินโคลนและหินที่ลื่น บางช่วงเลียบผาสูง จึงต้องใช้ความระมัดระวัง และเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ เพราะยิ่งอยู่ในป่าลึกก็ยิ่งใกล้กับช้างป่า แต่เมื่อมาถึงชั้นที่ 9 หรือวังพญางิ้วดำ และได้เห็นสายน้ำที่หล่นลงมาตามหน้าผาสูง จนฟุ้งกระจายชุ่มฉ่ำไปทั่ว ก็ต้องเรียกว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทั้ง แถมยังมีแอ่งน้ำให้ลงไปเล่นได้ด้วย

ส่วนขาลงอาจจะใช้เวลาน้อยกว่าขาขึ้น รวมไปกลับแล้วประมาณ 3-5 ชั่วโมง เมื่อออกมาจากน้ำตกก็สามารถแวะล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ที่ห้องน้ำตรงทางออกน้ำตก ก่อนกลับอย่าลืมแวะเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติ และสัตว์เฉพาะถิ่นอย่างเจ้ากบอกหนาม ส่วนใครอยากอยู่ต่อสามารถจองที่พักของเขตฯ ได้ล่วงหน้า

ที่ตั้ง : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อ.เขาสอยดาว จ.จันทบุรี

เวลาเปิดปิด : 08:00-16:30 . ทุกวัน

โทรศัพท์ : 081 384 5164

8.หาดแม่รำพึง 

หาดแม่รำพึง มีทุกอย่างให้คลายเหงาบนชายหาดยาวกว่า 12 กิโลเมตรแห่งนี้ ทั้งร้านอาหารเสิร์ฟเมนูสดจากทะเล เก้าอี้ชายหาดให้นอนเล่น จะมาเล่นน้ำทะเลให้ชุ่มฉ่ำ หรือเดินเล่นชมวิวพระอาทิตย์ลับฟ้าก็ย่อมได้ส่วนใครอยากพักค้างคืนก็มีที่พักหลายระดับราคาให้เลือก เรียกว่าเป็นชายหาดยอดนิยมที่มาเที่ยวง่ายแสนง่าย เที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะปลายปีกลางปี แถมไม่ไกลจากตัวเมืองระยองด้วย

ที่ตั้ง : .ตะพง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

9.แหลมแม่พิมพ์

ตั้งอยู่ใน อ.แกลง จ.ระยอง อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง 48 กิโลเมตร อีกหนึ่งชายหายที่มีชื่อเสียงในระยอง นอกจากบริเวณชายหาดจะเต็มไปด้วยร้าอาหาร ที่พัก และกิจกรรมทางน้ำให้เลือกเล่นมากมายแล้ว

ไฮไลท์สำคัญของการเดินทางไป ณ หาดแม่พิมพ์ คือ การเดินทางไปสักการะศาลเจ้าแม่พิมพ์ศาลศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวระยอง แถมยังสามารถเดินขึ้นไปยังวัดที่ตั้งบนยอดเขาสูงเพื่อชมวิวหาดแม่พิมพ์ในมุมสูงได้อีกด้วย

ที่ตั้ง : .เพแกลงกร่ำ ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง

10.หมู่เกาะมัน

เกาะมันใน เกาะมันกลาง และเกาะทะลุ มาระยองต้องออกทะเล มีแค่วันเดียวก็เที่ยวดำน้ำ 3 เกาะได้แบบคุ้มๆ เพียงจองแพ็คเกจวันเดียวเที่ยว 3 เกาะ ซึ่งมีผู้ให้บริการโซนนี้อยู่หลายเจ้า

นั่งเรือออกจากท่าเรืออ่าวมะขามป้อมแต่เช้า แวะจุดแรกที่เกาะมันใน ชมโครงการอนุรักษ์เต่าทะเล ทั้งบ่ออนุบาลและพิพิธภัณฑ์ จากนั้นโดดลงน้ำที่เกาะมันกลาง ดำน้ำตื้นชมปะการัง กินข้าวบนเรือ ตามด้วยเกาะทะลุ ที่มีทั้งช่องเขาทะลุ พร้อมแนวปะการังและฝูงปลาหลากชนิด ให้ชมปิดท้ายก่อนกลับฝั่งช่วงบ่ายๆ

ที่ตั้ง : .แกลง จ.ระยอง

11.ทุ่งโปรงทอง

ทุ่งโปรงทอง ป่าชายเลนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ที่ชุมชนปากน้ำประแส บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่งดงามไม่เหมือนใคร เพียงเดินเข้ามาตามทางเดินผ่านความร่มรื่นไม่กี่ร้อยเมตร ก็จะพบกับทุ่งของต้นโปรงที่ขึ้นอย่างหนาแน่นและแผ่บริเวณออกไปไกล

ยิ่งช่วงเวลาที่แดดจัดส่องสะท้อนใบสีเขียวอ่อนเหล่านี้ ทุ่งโปรงก็จะกลายเป็นสีเหลืองทองอร่ามขึ้นกล้อง กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต ส่วนใครที่อยากเดินชมธรรมชาติต่อ เส้นทางนี้ยังมีทางเดินไปทะลุออกถึงเรือรบหลวงประแสได้ด้วย

ที่ตั้ง : .ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง

เวลาเปิดปิด : 06:00-18:00 . เปิดทุกวัน

โทรศัพท์ : 038 661 720-1

12.ป่าชายเลนบ้านเนินฆ้อ สะพานรักษ์แสม

สะพานรักษ์แสม หนึ่งในจุดเช็กอินและถ่ายรูปสวยในระยอง กับวิวบนสะพานไม้ที่ทอดยาวเข้าไปในป่าชายเลน  โดยตัวสะพานมีความยาว 100 . โดยประมาณ ต่อจากตัวสะพานก็จะเป็นทางเดินไม้ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปชมพร้อมเรียนรู้ความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความร่มรื่นและบรรยากาศเงียบสงบ

นอกจากที่นี่จะมีวิวสวยเอาใจคนรักการถ่ายภาพแล้ว ที่นี่ยังถือเป็นเขตอนุรักษ์และเพาะพันธ์สัตว์ ซึ่งได้จัดตั้งธนาคารปูแสม จากการรวมกลุ่มของคนภายในชุมชน เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำในฤดูวางไข่อีกด้วย

ที่ตั้ง : คลองท่าตาโบ๊ย ม.2 .เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง

13.จุดชมวิวเขาแหลมหญ้า 

จุดชมวิวเขาแหลมหญ้า เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด ที่หลายคนอาจจะเลือกนั่งเรือออกไปเที่ยวเกาะเสม็ด แต่ถ้าอยากเที่ยวบนฝั่งชิลๆ เขาแหลมหญ้าก็เป็นอีกจุดที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะโดยเฉพาะในยามเย็น อย่างสะพานไม้ที่ทอดไปในทะเล

และถนนข้างๆกันที่มีศาลาไลฟ์การ์ดสีขาวทรงมินิมอลโดดเด่นอยู่ปลายทาง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติยาว 1.4 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเลียบริมทะเลแล้ววนขึ้นเขาเป็นวงกลม จุดนี้ก็ถ่ายรูปสวยเช่นกัน

ที่ตั้ง : .เพ อ.เมือง จ.ระยอง

เวลาเปิดปิด : 08:00-18:00 . เปิดทุกวัน

โทรศัพท์ : 038 653 034

14.เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ด ถือเป็นเพชรเม็ดงามแห่งอ่าวไทยและเกาะสำคัญที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปพักผ่อนเสมอ ด้วยระยะห่างจากชายฝั่งบ้านเพียง 6.5 กม. ใช้เวลาเดินทางเรือโดยสาร 30 นาที โดยประมาณ อีกทั้งยังมีเรือข้ามไปยังเกาะตลอด 24 ชม. (เรือออกทุกครึ่งชม.)

เมื่อขึ้นไปบนเกาะนักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกการเดินทางได้ถึง 2 รูปแบบ คือนั่งรถสองแถวและเช่ามอเตอร์ไซค์ ซึ่งสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้งไปกลับและค้างคืน พื้นที่บนเกาะก็มีทั้งสถานทีท่องเที่ยว ชมวิวสวย ๆ ในมุมสูง ดูพระอาทิตย์ขึ้นตกได้อย่างโรแมนติก มีที่พัก ร้านอาหารเครื่องดื่ม ให้เลือกอย่างจุใจ

อีกหนึ่งเหตุผลที่นักท่องเที่ยวมักจะเลือกเกาะเสม็ดเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวทะเลในช่วงหน้าร้อนก็คือ ธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม ชายหาดขาวเนื้อทรายละเอียด น้ำทะเลที่ยังคงใสสะอาดเหมาะสำหรับลงเล่นน้ำและมีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกทำ แถมค่าใช้จ่ายทั้งทริปก็ไม่แพงอีกด้วย

ส่วนหาดทรายสำคัญบนเกาะที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ หาดทรายแก้ว, อ่าวน้อยหน่า, อ่าวลูกโยน, อ่าวไผ่, อ่าวพุทรา, อ่าวทับทิม, อ่าวลุงดำ, อ่าวช่อ, อ่าวตะวัน, อ่าววงเดือน, อ่าวเทียน, อ่าวหวาย, อ่าวกิ่ว, อ่าวปะการัง, อ่าวกะรัง และอ่าวพร้าว เป็นต้น

ที่ตั้ง : 79 .1 .ก้นอ่าว ถ.หาดแม่รำพึงเพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง

โทรศัพท์ : 038 653 034

15.หาดนางรำนางรอง

แสงแดดกำลังสดใสได้เวลาเที่ยวทะเลสวยๆ กันแล้ว ตรงไปเลยทางตำบลแสมสาร ที่นั่นมีชายหาดในเขตทหารเรือให้เราเลือกเที่ยวเพียบ ขับรถจากตัวอำเภอสัตหีบแค่ 20 นาที หาดสวยและดังที่สุดไม่ควรพลาดอันดับแรกคือ หาดนางรำ กับหาดนางรอง ถือเป็นหาดพี่หาดน้องในบริเวณอ่าวเดียวกัน ทอดยาวเชื่อมต่อกัน แบ่งด้วยแนวแหลมหินเล็กๆ เท่านั้น ขับรถเข้าไปเราจะเจอหาดนางรำก่อน

เลยอีกนิดก็เป็นหาดนางรอง ทั้งสองหาดร่มรื่นด้วยทิวต้นไม้ ทรายสวย น้ำทะเลใสแจ๋ว ใครไปช่วงพีคสุดๆ บอกได้ว่าอาจเผลอร้องว้าวคิดว่าแถวนี้เป็นทะเลทางใต้เชียวล่ะ แถมที่นี่ยังเป็นหาดเขตทหารเรือที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติมาเที่ยว เพราะฉะนั้นบิกินี่ละลานตาเต็มหาดแน่นอน

ที่ตั้ง : อยู่ใกล้กับการท่าเรือสัตหีบ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ค่าเข้า : ชาวไทยคิดเฉพาะค่ารถยนต์ คันละ 20 บาท ชาวต่างชาติคิดเป็นรายคน คนละ 20 บาท

16.หาดเตยงาม

อีกหนึ่งหาดที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก หาดนี้เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวนาวิกโยธิน ภายใต้การดูแลของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นหาดที่มีทรายละเอียดเนียนเท้า น้ำใส กว้างและไม่ลึก เหมาะกับ การเล่นน้ำทะเล

รวมไปถึงทำกิจกรรมทางน้ำและริมหาดต่างๆ มีเปลผ้าใบให้เช่า มีบริการนั่งเรือท้องกระจกชมปะการัง ดำน้ำดูปะการัง พายเรือคายัค หรือจะนั่งรถนำเที่ยวไปชมสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณ ทั้งผาวชิราลงกรณ์ อนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน เป็นต้น

บอกเลยว่าใครได้มาแล้วจะมาอยากมาอีก

ที่ตั้ง : หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เวลาเปิดปิด : 06:00-18:00 . เปิดทุกวัน

ที่ตั้ง: ภายในหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

17.หาดบางแสน

หากพูดถึงชายหาดยอดฮิตและมีชื่อเสียงมายาวนานในชลบุรี หาดบางแสน น่าจะเป็นลำดับต้น ๆ ที่หลายคนมักนึกถึงอยู่เสมอ เพราะด้วยที่ตั้งใกล้กรุงเทพฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมงแถมบรรยากาศโดยรอบชายหาดยังจัดให้เป็นจุดท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครอบครัน ทั้งถนนเลียบชายหาด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่พัก เรียงรายอยู่เต็มถนนให้นักท่องเที่ยวได้เลือกตามความต้องการ

แถมใครที่ชอบกิจกรรมสนุก ๆ นอกจากการนอนชิลริมหาดสามารถเช่าห่วงยาง บานาน่าโบ๊ท จักรยาน ซึ่งหลังจากเล่นน้ำทะเลสนุกขึ้นมาแล้วที่นี่ยังมีบริการห้องอาบน้ำจืดไว้รอบรับอีกด้วย

ที่ตั้ง : .แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี

18.เกาะสีชัง

เกาะสีชัง เที่ยวเกาะประวัติศาสตร์ สัมผัสบรรยากาศชุมชนท้องถิ่น และชายหาดเงียบสงบที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ เก็บกระเป๋าแบกเป้มานอนเล่นซักคืนสองคืน พร้อมเช่ามอเตอร์ไซค์หรือสกายแล็ปซักคันไปตระเวนเที่ยวให้ทั่วเกาะ

ไม่ว่าจะแวะที่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ แล้วขึ้นไป มณฑปรอยพระพุทธบาท กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเกาะ พร้อมกับชมวิวมุมสูง แวะถ่ายรูปที่ พระจุฑาธุชราชฐาน ที่ประทับฤดูร้อนในรัชกาลที่ 5 แล้วเล่นน้ำที่ หาดถ้ำเขาพัง แล้วปิดท้ายยามเย็นที่ ช่องเขาขาด จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงามเกินบรรยาย

ที่ตั้ง : .เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน

19.หาดพัทยา

สถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะนอกจากจะมีทะเลที่ขึ้นและชายหาดที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมทางน้ำ เช่น บานาน่าโบ๊ท, วินเซิร์ฟ, เจ็ตสกี และกิจกรรมอื่นๆ  ห้างสรรพค้า ที่พัก และร้านอาหารทะเลไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกเพียบ

และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ ชายหาดพัทยาอย่าง Ripley’s Believe it or not, วัดเขาพระบาท  วัดพระใหญ่ เป็นต้น เรียกได้ว่าแค่มาเที่ยวพัทยาที่เดียวก็คุ้มสุดๆ สำหรับวันหยุดและวันพักผ่อนของคุณ

ที่ตั้ง : พัทยา จ.ชลบุรี

20.เกาะล้าน

เกาะฮอตฮิตของวัยรุ่นชาวโซเชียลที่ต่างพากันมาเที่ยวเยอะที่สุด เพราะนอกจากจะเดินทางสะดวกแล้ว ที่เกาะล้านยังสวยไม่แพ้เกาะอีกเลย น้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายสีขาวละเอียดที่ทอดยาว และกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจอีกมากมาย ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้หลายคนหลงใหลเกาะล้านและแชร์ความสวยงามกันอย่างสม่ำเสมอ

ที่ตั้ง : เกาะล้าน จ.ชลบุรี

21.เกาะแสมสาร

เป็น 1 ใน 9 เกาะในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพฯ โดยเปิดให้ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แบบเช้าไปเย็นกลับ สามารถรับบัตรคิวขึ้นเรือได้ที่ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย อ.สัตหีบ ตั้งแต่ 6:00 . นั่งเรือแค่ 30 นาทีก็ถึง

โดยมีหาดเปิดให้เที่ยวได้ 2 แห่งคือ หาดเทียน และหาดลูกลม บนเกาะมีกิจกรรมให้ทำมากมายทั้งดำน้ำ, นั่งเรือท้องกระจก, ขี่จักรยานและเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ, พายเรือ ดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น ฯลฯ

ที่ตั้ง : .สัตหีบ จ.ชลบุรี

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน เรือออกทุกชั่วโมง 09:00-13:00 . เรือกลับ 13.30 . 15.00 . 16.00 . และ 16.30 . เฉพาะเสาร์อาทิตย์

22.เกาะกูด

เกาะกูด ขอต้อนรับสู่เกาะกลางทะเลที่ห่างไกล สุดชายแดนไทย และยังคงความบริสุทธิ์ทั้งชายหาดและผืนทะเลโดยรอบ จนบงคนถึงกับเรียกว่า อันดามันแห่งทะเลตะวันออก รวมทั้งป่าเขาบนเกาะ

ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกคลองเจ้า หาดคลองเจ้า หาดบางเบ้า อ่าวง่ามโข่ อ่าวพร้าว แหลมเทียน ซึ่งแวดล้อมด้วยรรยากาศหาดทรายสวย น้ำทะเลใส ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด รวมไปถึงป่าชายเลนที่สมบูรณ์ และแนวปะการังหลากชนิด

นอกจากเกาะกูดแล้ว ในพื้นที่อ.เกาะกูด ยังมีเกาะน้อยใหญ่แวดล้อมมากมายที่สวยงามไม่แพ้กัน เช่น เกาะแรด เกาะหมาก เกาะขาม เกาะกระดาด เป็นต้น

ที่ตั้ง : .เกาะกูด จ.ตราด

เวลาเปิดปิด : มีเรือโดยสารหลายเจ้าให้บริการจากท่าเรือแหลมศอก ไปกลับระหว่าง 10:00-13:00 . ทุกวัน

23.น้ำตกคลองเจ้า เกาะกูด 

น้ำตกคลองเจ้า จุดท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะกูดทั้งด้านธรรมชาติและประวัติศาสตร์ โดยน้ำตกคลองเจ้าเป็นน้ำตกขนาดกลางมีความสูง 3 ชั้น

ชั้นบนเป็นลำธารไหลผ่านหน้าผาหินลงมาเป็นแอ่งขนาดใหญ่ให้ลงไปเล่นน้ำได้ ในสมัยรัชกาลที่ 1 เคยเป็นที่ลี้ภัยของ องเชียงสือ เจ้าแห่งแคว้นอันนัม หรือเวียดนามในปัจจุบัน และยังเคยรับเสด็จรัชกาลที่ 6 ซึ่งทรงสลักพระปรมาภิไธยย่อ วปร เอาไว้ด้วย

นอกจากนี้ยังถือเป็นแหล่งน้ำจืดที่สำคัญแห่งหนึ่งบนเกาะกูด เพราะเป็นต้นกำเนิดคลองเจ้า ที่ไหลผ่านป่าโกงกาง ลงสู่ทะเลที่อ่าวคลองเจ้า

ที่ตั้ง : .เกาะกูด จ.ตราด

24.เกาะหมาก

เกาะเล็กๆ อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูดที่ยังมีวิถีชีวิตผู้คนที่เรียบง่ายและน่ารัก มาเยือนเกาะนี้จะพบกับถนนหนทาง สวนยาง สวนมะพร้าว โรงเรียน บ้านเรือน พิพิธภัณฑ์ ร้านค้าเล็กๆ ผู้คนก็รู้จักกันแทบทั้งเกาะ เรียกว่ามีความบ้านๆจนอยากจะอยู่ทำความรู้จักกันซักคืนเลย รับรองได้ว่า มาแล้วจะพบความประทับใจ จนอยากกลับมาเรื่อยๆ อีกแน่นอน

ที่ตั้ง : .เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด

เวลาเปิดปิด : มีเรือโดยสารหลายเจ้าให้บริการจากแหลมงอบ ท่าเรือกรมหลวง ทุกวัน

25.จุดชมวิวเขาท่านก๋ง

nnnจุดชมวิวเขาท่านก๋ง เป็นจุดชมวิวมุมสูงตรงสุดชายแดนภาคตะวันออกของไทย สร้างเป็นสกายวอล์คบนยอดเขาในบริเวณวัดเขาท่านก๋ง ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มองเห็นได้จากระยะไกล

เมื่อขึ้นมาถึงจุดชมวิวจะพบกับวิวที่งดงามของทะเลตราดและตัวอ.คลองใหญ่ หากมองไกลออกไปจะเห็นแหลมสารพัดพิษซึ่งเป็นสุดปลายแหลมฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ติดกับชายแดนประเทศกัมพูชา สามารถชมวิวได้ทั้งวัน โดยเฉพาะยามเช้าที่บางวันอาจได้เห็นสายหมอกไหลจากภูเขาลงสู่ฝั่งทะเล

ที่ตั้ง : ซอยวัดเขาท่านก๋ง อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน

26.ลานตะบูนบ้านท่าระแนะ

ชมความอัศจรรย์ของป่าชายเลนที่มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี บนเส้นทางล่องเรือเข้าไปในคลองซึ่งจะผ่านป่าถึง 3 ประเภท คือ ป่าโกงกาง ป่าจาก และป่าตะบูน ที่เรียงรายด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่และแน่นขนัดราวกับหลุดเข้าไปในโลกดึกดำบรรพ์ แล้วหยุดให้เดินชม ลานตะบูน ที่เต็มไปด้วยรากไม้แผ่ขยายไปทั่วบริเวณจนเกิดเป็นภาพที่แปลกตา

นอกจากนี้ทางชุมชนยังมีกิจกรรมอื่นๆ ด้วย เช่น การนวดแบบ สปาเจ๊ก เพื่อสืบสานวัฒนธรรมชนพื้นเมืองตราดเชื้อสายจีน รวมทั้ง จิบชาร้อยรู อยู่ร้อยปี ซึ่งเป็นสมุนไพรท้องถิ่นที่ชาวบ้านเชื่อว่าช่วยรักษาโรคมะเร็ง รวมทั้งร่วมปลูกหัวร้อยรูเพื่อเป็นการอนุรักษ์สมุนไพรท้องถิ่นอีกด้วย

ที่ตั้ง : .หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน

โทรศัพท์ : 081 161 6694

27.น้ำตกธารมะยม

น้ำตกธารมะยม น้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะช้าง มีน้ำไหลเต็มตลอดทั้งปี เอกลักษณ์เด่นของน้ำตกแห่งนี้คือ สายน้ำที่ไหลตามร่องหินแรนิตสีดำอย่างสวยงาม และที่สำคัญคือในอดีตล้นเกล้ารัชกาลที่ 5, 6 และ 7 ทรงเสด็สประพาสมาแล้ว โดยทรงลงปรมาภิไธยย่อสลักลงบนหินในบริเวณน้ำตกอีกด้วย

สำหรับตัวน้ำตกแบ่งออกเป็น 4 ชั้น ชั้นที่ 1 และ 2 เป็นชั้นเล็กๆ ที่มีแอ่งสำหรับเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ให้ลงเล่นน้ำได้เช่นกัน ส่วนชั้นที่ 4 ชั้นสุดท้ายถือเป็นชั้นน้ำตกที่สวยที่สุดเพราะเดินทางเข้าไปค่อนข้างลำบาก

ส่วนนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมความงามของน้ำตก ต้องเสียค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ ราคา 40 บาท, เด็ก ราคา 20 บาท

ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง 23/7 .3 .เกาะช้าง จ.ตราด

เปิดปิดเวลาเปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.30 .

โทรศัพท์ : 039 555 080, 039 555 084

28.เกาะช้าง

เกาะที่คนรักทะเลทั่วโลกรู้จักดี โดยจัดเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ สามารถนำรถยนต์ข้ามไปเที่ยวได้ด้วยเรือเฟอร์รี่ รอบเกาะช้างนอกจากจะล้อมรอบไปด้วยหาดทรายขาวเนียนนุ่มเท้า แนวปะการังน้ำตื้น

ภายในเกาะยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผืนป่า ทั้งน้ำตก ขุนเขา และแนวป่าชายเลน ส่วนชายหาดยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวก็เช่น หาดคลองพร้าว ที่มีหาดทรายทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ไม่ลาดเอียง คลื่นลมสงบ เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำ

แถมยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามด้วย นอกจากนี้ยังมี หาดไก่แบ้ อ่าวคลองสน อ่าวสับปะรด หาดทรายยาว และหมู่บ้านชาวประมงที่ปลาย

ที่ตั้ง : .เกาะช้าง จ.ตราด

29.หมู่เกาะรัง

หาดทรายขาวสะท้อนแสงจนต้องหรี่ตามอง ปักป้ายเห็นแต่ไกลว่า หาดศาลเจ้า

บริเวณนี้มักจะเป็นจุดแวะพักของเรือเดย์ทริปทั้งหลาย รอบๆ เกาะรังมีเกาะน้อยใหญ่ที่เหมาะกับการดำน้ำชมปะการังเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เกาะกระ เกาะเทียน เกาะทองหลาง เกาะยักษ์ เกาะสองพี่น้อง เกาะมะปริง เกาะตุ้น เกาะกำปั่น เป็นต้น

น้ำทะเลตรงหาดศาลเจ้าใสจนเห็นพื้นด้านล่าง อดไม่ได้ที่จะต้องลงไปเดินเล่นแช่ตัวให้ชุ่มฉ่ำ ซึ่งระดับน้ำก็ตื้นแค่เข่าถึงเอวเท่านั้นเอง ส่วนบนหาดมีชิงช้าให้นั่งเล่นถ่ายรูปรวมไปถึงศาลเจ้าที่ชาวเรือเคารพและยังเป็นที่มาของชื่อหาดด้วย

จากนั้นแถมพิเศษด้วยการแวะมาจอดชมทะเลมรกต ไล่เฉดสีจากเทอร์ควอยส์ไปฟ้าครามแถว เกาะสองพี่น้อง ที่จะเปลี่ยนเฉดสีไปตามมุมแสงอาทิตย์อย่างสวยงามมากๆ

ที่ตั้ง : .เกาะกูด จ.ตราด

30.เกาะยักษ์ใหญ่ยักษ์เล็ก

จุดดำน้ำที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีในเรื่องความสวยงามของแนวปะการัง และบรรดาสัตว์ทะเล เป็นเกาะหินที่ตั้งอยู่ไม่ห่างกัน น้ำใสกิ๊งจนแทบกรี๊ด มีแนวปะการังน้ำตื้นให้ชมรอบๆ แบบไม่ต้องใส่ถังก็สามารถชมความสวยงามได้แบบฟินๆ

ส่วนใหญ่เป็นปะการังเขากวางปะการังครก หอยมือเสือ หอยเม่น รวมทั้งฝูงปลาทะเลที่แหวกว่ายรอบตัวแบบใกล้ชิดมากจนนึกว่าตัวเองเป็นหนึ่งในฝูงเลยทีเดียว ชาวเลเกาะกูดและทางอุทยานแห่งชาติเองก็ร่วมกันอนุรักษ์พื้นที่บริเวณนี้เป็นอย่างดี มีการทำแนวทุ่น และลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยตลอด ทะเลที่นี่จึงยังใสและสมบูรณ์อยู่มากทีเดียว

ที่ตั้ง : .เกาะกูด จ.ตราด

31.ดินแดนหิ่งห้อย ค่ายพรหมโยธี

ดินแดนหิ่งห้อยนับแสน ค่ายพรหมโยธี ปราจีนบุรี บอกเลยว่าไปที่นี่ได้เจอหิ่งห้อยแน่นอน

การเที่ยวชมที่นี่ขับรถเข้าไปในค่ายพรหมโยธี กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ฯ ได้เลย ถึงที่จอดรถจะมีเจ้าหน้าที่ทหารนำทาไปยังจุดชมหิ่งห้อยซึ่งมีการล้อมรั้วอย่างดี ไม่ต้องกลัวว่าเราจะรบกวนพวกมันเลย

การชมหิ่งห้อยสามารถทำได้ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ซึ่งทางค่ายก็เปิดให้ชมเฉพาะช่วงนั้นด้วย เวลาเหมาะสมคือประมาณต้นเดือนกรกฎาคม มีโอกาสพบเห็นหิ่งห้อยเยอะที่สุดในคืนวันที่มีฝนตกก่อนหน้าแล้ววันดังกล่าวไม่มีฝน

ข้อแนะนำสำคัญคือหิ่งห้อยเยอะ ยุงก็เยอะด้วย  และในเมื่อเราไม่ควรทาหรือฉีดยากันยุง เพราะหิ่งห้อยก็กลัวยากันยุงเหมือนกัน จึงควรใส่เสื้อแขนยาว ขายาว รองเท้าผ้าใบเพื่อกันยุงให้ได้มากที่สุด ใครใส่ขาสั้นไปชมหิ่งห้อย รับรองเดินออกมาขาลายแน่นอน

ที่ตั้ง : ค่ายพรหมโยธี กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์ฯ ต.ไม้เค็ด อ.เมือง ปราจีนบุรี

32.วนอุทยานเขาอีโต้

เขาอีโต้เป็นการอธิบายลักษณะของภูเขาอย่างหนึ่งคือมีสันด้านหนึ่งลาดเอียงและยาว มีหน้าผาชัน และมีพลาญหินทรายกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งที่ปราจีนบุรีก็มีภูเขาลักษณะนี้อยู่และเรียกชื่อกันว่าเขาอีโต้แบบตรงไปตรงมาเลยด้วย เป็นเทือกเขาที่ต่อเนื่องมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

การเที่ยวเขาอีโต้ ปราจีนบุรี ทำได้ง่ายๆ บนเขามีจุดเด่นเพียบ ตั้งแต่น้ำตกเขาอีโต้ อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ที่เราสามารถไปชมวิว นั่งชิลที่ร้านกาแฟ หรือกางเต็นท์พักแรมได้สบาย จัดทำตามโครงการป่าในเมือง ถ้าเลยจากอ่างเก็บน้ำไปอีกหน่อยจะพบจุดชมวิวผาหินซ้อนสำหรับชมวิวเมืองปราจีนและพระอาทิตย์ตก

ถัดไปคือพุทธอุทยานเขาอีโต้ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ พระปรางค์นาคปรกองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ และถ้าตรงต่อไปเรื่อยๆ ก็จะถึงยอดสูงสุดเขาอีโต้ เป็นถนนสีเขียวร่มรื่นมาก เรียกว่าพอขึ้นมาแล้วจะเที่ยวให้ครบต้องใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะ

ที่ตั้ง: .บ้านพระ อ.เมือง ปราจีนบุรี

33.อ่างเก็บน้ำจักรพงศ์

แวะไปนั่ง ๆ นอน ๆ ชิล ๆ ริมอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ชื่นชมทัศนียภาพเหนืออ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาอีโต้ แหล่งต้นน้ำสำคัญโดยมียอดเขาที่เป็นจุดชมวิวไฮไลท์ที่ห้ามพาดเมื่อเดินทางมาถึงอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ซึ่งสามารถนำรถยนต์ขับขึ้นไปได้ในระยะทาง 11 กิโลเมตรและช่วงกิโลเมตรที่ 6 ยังจะได้ชวนฉงนกับเนินพิศวงที่ยาวประมาณ 150 เมตร เพียงจอดรถแล้วปลดเกียร์ว่าง รถจะไหลขึ้นเนินเขาได้ราวกับมีมือดีมาช่วยผลัก

สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวในบริเวณอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์นั้นมีทั้งปั่นจักรยาน เดินเล่น หรือชมวิวตามแนวสันเขื่อน โดยช่วงเวลาเหมาะที่สุดคือตอนเช้าตรู่และในช่วงฤดูหนาวยังจะได้สัมผัสสายหมอกขาวได้อย่างเต็มตาอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งจัดท่องเที่ยวที่ควรแวะมาเช็กอินเป็นอย่างมาก

ที่ตั้ง : .บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

34.อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา

อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา หรือห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เป็นแหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่และป้องกันน้ำท่วม รักษาระบบนิเวศในแม่น้ำปราจีนบุรีและบางปะกง

เป็นเขื่อนดินสูง 32.75 เมตร ก็บกักน้ำได้ 295 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง รวมทั้งช่วยรักษาระบบนิเวศ ผลักดันน้ำเค็ม น้ำเน่าเสีย ในแม่น้ำปราจีนบุรี และแม่น้ำบางปะกง ในช่วงฤดูแล้งเป็นประจำเกือบทุกปี

นอกจากนี้อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ ที่สามารถเข้ามาเที่ยวชมความงดงามของอ่างเก็บน้ำที่มีภูเขาอยู่เบื้องหลังได้ตลอดทั้งปี และนับเป็น โครงการในพระราชดำริ โครงการสุดท้ายของในหลวงรัชกาลที่อีกด้วย

ที่ตั้ง : .แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

โทรศัพท์ : 037 629 281

35.แก่งหินเพิง

ใครที่รักในกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบผจญภัย ต้องแวะมาที่แก่งหินเพิงโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนตุลาคมที่นี่จะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน  เร้าใจ กับกิจกรรมล่องแก่งหินเพิงกลางสายน้ำเชี่ยว ซึ่งแก่งหินเพิงจัดเป็นแก่งในระดับ 3-5

การล่องแก่งต้องอาศัยแพยางที่จุได้ 8-10 คนต่อลำ ล่องผ่านแก่งต่าง ๆ กลางสายน้ำสีขาวที่ไหลเชี่ยวกราก พลาดไม่ได้กับแก่งสไลเดอร์ที่นักท่องเที่ยวสามารถลงไปนอนเล่นในน้ำได้ปล่อยตัวลอยขนาน ไปกับสายน้ำสร้างความสนุกสนานมากมายสุด ๆ

ที่ตั้ง : .สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

36.ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง

ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง เป็นถ้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่บริเวณเชิงเขาเหลื่อมที่อ.คลองหาด ก่อนเข้าถึงจะเป็นทางเดินระยะทางประมาณ 700 เมตร ผ่านป่าไม้ร่มรื่น ส่วนภายในถ้ำมีไฟส่องสว่างและอากาศถ่ายเทไม่อบอ้าว

เมื่อผ่านช่วงประตูสู่ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง จะพบความงดงามอยู่ที่หินงอกหินย้อยที่เต็มไปด้วยผลึกแร่ธาตุจนสะท้อนกับแสงไฟระยิบระยับราวกับฝังเพชร ทั้งห้องโถงอุโมงค์ใหญ่ ห้องมุขประดับเพชร และประตู่สู่ปราสาทถ้ำฯ นอกจากความงามด้านในถ้ำ

ใกล้กับถ้ำยังมีจุดชมทิวทัศน์อีกสองจุดคือ ผาโมกราชินี ทางขึ้นลาดชันแต่ร่มรื่นด้วยไม้นานาชนิด มองเห็นทิวไม้และไร่ข้าวโพดของชาวบ้านระยะไกล อีกจุดคือผาหินเทิบ จากจุดนี้จะมองเห็นบ้านพนมไดของประเทศกัมพูชา

ที่ตั้ง : .คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว

โทรศัพท์ : 037 445 147, 089 800 6118

37.ถ้ำน้ำเขาศิวะ

อันซีนแห่งสระแก้ว ที่นี่ไม่ใช่ถ้ำในเขาหินปูนธรรมดา แต่เป็นถ้ำที่เราต้องว่ายน้ำลอยคอเข้าไป เพราะมีน้ำไหลด้านในอยู่ตลอดเวลา ลอยเข้าไปชมหินงอกหินย้อยและน้ำตกเล็กๆ ในถ้ำระยะทางประมาณ 500 เมตร บอกเลยว่าเป็นอะไรที่สนุกสนานสุดๆ และไม่ต้องกลัวอันตราย เขามีชูชีพให้อย่างดี

รวมทั้งไกด์ท้องถิ่นซึ่งมีความชำนาญพื้นที่ อย่างไรก็ตามการไปเที่ยวควรติดต่อล่วงหน้าสักนิด เพื่อไกด์จะได้เตรียมพร้อม ให้คำแนะนำ รวมถึงดูเรื่องสภาพอากาศและระดับน้ำในถ้ำด้วยนะ

นอกจากมาเที่ยวยังสามารถกางเต็นท์ค้างแรมบริเวณลานหน้าถ้ำ มาเป็นกลุ่มก๊วนเฮฮาดูดาวยามค่ำก็มีความสุขไปอีกแบบ

ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

ที่ตั้ง : .คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด สระแก้ว

โทรศัพท์ : 037543031

38.ละลุ

ชวนมุ่งหน้าสู่บ้านคลองยาง เพื่อไปชมประติมากรรมธรรมชาติที่เกิดจากการยุบตัวพังทลายของดิน และผ่านการกัดเซาะของลมและฝนมาเป็นเวลานาน จนเกิดกำแพงและเสาดินรูปร่างแปลกตาแล้วแต่จะจินตนาการ บนพื้นที่ถึงกว่า 3,000 ไร่ ใครที่ต้องการจะชมละลุ ทางชุมชนมีบริการรถอีแต๊กให้เช่าพาเข้าไปในพื้นที่ สามารถนั่งได้คันละ 6 คน

เพียงเข้าสู่พื้นที่ละลุ ก็จะมองเห็นภูมิประเทศที่เปลี่ยนไปทันที มีทั้งหลุมยุบ และร่องทางที่ต้องอาศัยความชำนาญของชาวบ้านในการหลบหลีก ซึ่งจุดที่จะได้ชมคือบริเวณหลักที่มีป้ายละลุให้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ส่วนใครจะจัดพร็อบ หรือครีเอทมุมเท่ๆ ยังไง ก็แล้วแต่ความสามารถส่วนบุคคลและช่างภาพ ซึ่งละลุในตอนกลางวันก็ได้บรรยากาศนึง แต่ถ้าติดต่อมาล่วงหน้าเพื่อเข้าไปในถ่ายทางช้างเผือกในละลุตอนกลางคืน ก็จะได้อีกอารมณ์โรแมนติกที่น่าประทับใจจริงๆ

นอกจากนี้ ชุมชนบ้านคลองยางยังมีโฮมสเตย์ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย เป็นแพ็คเกจรวมมื้ออาหารในราคาตามจำนวนคน ส่วนค่าเช่ารถเข้าไปถ่ายดาวตอนกลางคืนแยกต่างหาก

มาถึงแล้วอย่าพลาดลองเมนูเด็ดที่ชาวบ้านแถวนี้เพาะเลี้ยงเป็นล่ำเป็นสัน นั่นคือจิ้งหรีดทอด กรุบกรอบ รสเค็มๆ มันๆ กินคู่น้ำพริก ผักลวก และยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนทั้งมะขามแก้ว กล้วยเบรคแตก และชาสมุนไพร จำหน่ายด้วย

ที่ตั้ง : บ้านคลองยาง ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

เวลาเปิดปิด : 08:00-18:00 . ทุกวัน

โทรศัพท์ : 065 457 7801, 081 263 9410

39.อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก

อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก อยู่ที่อ.วัฒนานคร มีจุดเริ่มต้นมาจากพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 ในการปรับปรุงระบบชลประทานในเขตพื้นที่ราบเชิงเขา

โดยสร้างเป็นเขื่อนดินสูง 17.50 เมตร และยาว 720 เมตร เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับเกษตรกรในการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี

และผลพลอยได้ที่ประชาชนได้รับด้วยก็คือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เล่นน้ำ ปั่นเรือหงส์ รวมทั้งมีร้านค้าจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มพร้อมเสิร์ฟที่ซุ้มริมน้ำ รวมทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากวิวขุนเขาและผืนน้ำกว้าง เหมาะจะชวนกันมาถ่ายภาพเล่นด้วย

ที่ตั้ง : .หนองตะเคียนบอน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน

โทรศัพท์ : 037 261 667

40.อ่างเก็บน้ำพระปรง

อ่างเก็บน้ำพระปรง เป็นสถานที่กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตรตามพระราชดำริของรัชกาลที่ 9

โดยพื้นที่นี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติปางสีดา จึงมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากๆ ยิ่งในช่วงเดือนพฤษภาคมสิงหาคม จะมีเทศกาลดูนกน้ำ โดยเฉพาะ นกอ้ายงั่ว ที่จะบินมาหาปลากินบริเวณนี้

นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ตกปลา ล่องเรือชมธรรมชาติ เล่นน้ำ และเหมาะที่จะพาครอบครัวมาพักผ่อน กินอาหารอร่อย แบบใกล้ชิดติดริมน้ำ

ที่ตั้ง : .ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

เวลาเปิดปิด : ทุกวัน

โทรศัพท์ : 089 247 4543

41.อุทยานแห่งชาติปางสีดา

หากพูดถึงเทศกาลชมผีเสื้อในแต่ละปี ต้องปรากฏชื่ออุทยานแห่งชาติปางสีดาอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน เพราะด้วยความสมบูรณ์ของผืนป่าในอุทยานแห่งชาติปางสีดา ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งนกหลากหลายสายพันธุ์กว่า 300 ชนิด

ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ที่ปกคลุมด้วยสภาพป่าหลายประเภท ทั้งป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมที่แห่งนี้จึงกลายเป็นความสุขสำหรับคนรักธรรมชาติ

สำหรับไฮไลท์ของการท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดได้แก่ สัมผัสความชุ่มฉ่ำกับน้ำตกสวยที่มีอยู่หลายแห่งอย่าง น้ำตกปางสีดา เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเป็นสายน้ำทิ้งตัวจากหน้าผาสูง 8 เมตร ลงสู่เบื้องล่างที่เป็นแอ่งกว้างร่มรื่น และเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง

ต่อมาคือ น้ำตกผาตะเคียน น้ำตกสวยที่โดดเด่นด้วยหน้าผาสูง 20 เมตร ปิดท้ายด้วย น้ำตกแควมะค่า ที่ต้องเดินเท้าเข้าไป ซึ่งบริเวณใกล้ ๆ กันยังมีน้ำตกรากไทรน้อยที่อยู่ห่างเพียง 500 เมตร ได้สบายอีกด้วย

อีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ ทุ่งหญ้าบุตาปอด เป็นทุ่งหญ้าที่จะได้พบเห็นสัตว์ป่าจำนวนมากออกมาหากินท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ปิดท้ายด้วย จุดชมวิว ที่ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 40 ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ไกลสุดตากลางหุบเขากว้างใหญ่ และจะสวยเป็นพิเศษในยามเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น และยามเย็นในช่วงพระอาทิตย์ตกดินอย่างสวยงามได้อีกด้วย

ค่าบริการ :

  • ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท
  • ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท

ที่ตั้ง : หมู่ 7 .ท่าแยก อ.เมือง จ.สระแก้ว

เวลาเปิดปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00-20.00 .

โทรศัพท์ : 0 3724 7948, 088 1862 1511

42.อุทยานแห่งชาติทับลาน

เมื่อพูดถึงอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ นักท่องเที่ยวหลายคนคงรู้จักในชื่ออุทยานแห่งชาติทับลานด้วยเนื้อที่ 1,397,375 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี ที่นี่ยังถือเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารสำคัญหลายสาย เนื่องจากมียอดเขาสูงสุดอย่างยอดเขาละมั่งสูงที่ระดับ 992 เมตรซึ่งมีความสมบูรณ์มากทั้งป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้ง

สำหรับจุดสำคัญของอุทยานแห่งชาติทับลาน คือ บริเวณบ้านทับลาน บ้านขุนศรี บ้านบุพราหมณ์และบ้านวังมืด จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าลานเป็นป่าผลัดใบที่มีสภาพเป็นป่าโปร่งมีต้นลานขึ้นอย่างหนาแน่นทั่วพื้นที่

โดยป่าลานนี้มีเนื้อที่ 200 ไร่ บริเวณที่ราบบนเขาละมั่ง ด้าน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเต็มไปด้วยไม้ลานเป็นพืชในตระกูลปาล์ม (Palmae) บริเวณป่าลานและป่ารุ่นยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอีกด้วย

ที่ตั้ง : .บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

43.อุทยานวังตะไคร้

แหล่งพักผ่อนหย่อนใจระดับตำนาน อดีตที่พำนักของกรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิจ และหม่อมราชวงศ์หญิงพันธุ์ทิพย์ บริพัตร ภายในพื้นที่ 2.4 ตารางกิโลเมตรของอุทยานอัดแน่นไปด้วยความร่มรื่นของพันธุ์ไม้ทั่วพื้นที่รวมทั้งสวนพฤกษศาสตร์สวนกุหลาบน้ำตกจำลองและสายน้ำธรรมชาติที่ไหลผ่านทั้งคลองตะเคียนและคลองมะเดื่อ

กิจกรรมก็มีให้ทำมากมายได้ทั้งครอบครัว เช่น ล่องแก่ง, ขับ ATV, Paintball, ล่องเรือชมเขื่อนขุนด่านปราการชล รวมทั้งกิจกรรมผจญภัยตามฐานต่างๆ และโหนสลิง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีครบทั้งที่พัก ลานกางเต๊นท์ และร้านอาหารอีกด้วย        

ที่ตั้ง : .สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก

เวลาเปิดปิด : 08:00-18:00 . ทุกวัน

โทรศัพท์ : 037 385 164-5, 081 989 0365

44.แก่งสามชั้น

ตามแม่น้ำนครนายกมีแห่งเล็กแก่งน้อยมากมาย ห่างกันกิโลสองกิโลก็มีชื่อเรียกให้ต่างกันแล้วล่ะ แต่คงเป็นแก่งสามชั้นนี่แหละที่ยอดฮิตที่สุด เดินทางสะดวก สายน้ำไหลเย็นทั้งปี มีการจัดทำซุ้มเพิงสำหรับนั่งรับประทานอาหารพักผ่อน มีของกินของขาย มีแนวตลิ่งริมน้ำ มีห่วงยางให้เช่า เรียกว่าครบสูตรสำเร็จแห่งศิลปะการเล่นน้ำเลยล่ะ

วิธีการเล่นน้ำที่แก่งสามชั้นให้สนุกแนะนำว่าควรใช้ห่วงยางเป็นตัวช่วยแล้วปล่อยไหล แค่นี้ก็สนุกสุดเหวี่ยง และบริเวณแก่งสามชั้นมีที่พัก รีสอร์ท ให้บริการด้วยครับ

ที่ตั้ง L .สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

เปิดทุกวัน 8.00-17.30 .

45.น้ำตกนางรอง

น้ำตกสวยและมีชื่อเสียง พื้นที่จริงๆ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่เรื่องการดูแลท่องเที่ยวจัดการบริการโดยหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งทำให้มาเที่ยวที่นี่มีให้บริการพร้อมเรื่องอาหาร ของกิน รวมถึงบ้านพัก ลานกางเต็นท์

ทางเดินศึกษาธรรมชาติท่ามกลางร่มไม้ใหญ่พาเราเดินขึ้นไปตามชั้นน้ำตก บางช่วงเป็นลำธารไหลผ่านซอกหิน น้ำสวยใสน่าเล่น บรรยากาศสดชื่นมาก ถ้าอยากเล่นแบบแอ่งใหญ่ๆ ไม่ไกลจากทางเข้ามีฝายน้ำล้นให้แช่สบายใจ

ที่ตั้ง : .หินตั้ง สุดถนน ทล.3049 .เมือง จ.นครนายก

เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 .

46.อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ

สถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัวในช่วงสุดสัปดาห์น่าจะเป็นนิยามของ อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ ได้อย่างชัดเจน เพราะด้วยความสวยงามของผืนน้ำตัดกับภูเขาที่รายล้อมอ่างเก็บน้ำเอาไว้นักท่องเที่ยวจึงเลือกเดินทางมาพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ที่นี่เสมอ

นอกจากนี้ที่นี่ยังถูกใช้เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำของ จ.นครนายก เนื่องจากมีศักยภาพในการเล่นเรือกรรเชียง เรือแคนนูน้ำเรียบ เรือใบ และวินด์เซิฟในบางฤดูแถมยังมีถนนลาดยางรอบอ่างที่เหมาะสำหรับออกกำลังกายอีกด้วย

ที่ตั้ง : .เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก

47.น้ำตกสาริกา

อีกหนึ่งน้ำตกสวยที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลักษณะเด่นที่แตกต่างไปจากน้ำตกอื่น ๆ คือลักษณะของน้ำตกที่มีความกว้างใหญ่ไหลจากหน้าผาเป็นทอดถึง 9 ชั้น โดยความสูงของหน้าอยู่ที่ประมาณ 200 . สำหรับน้ำตกสาลิกา นั้นจะสวยที่สุดในช่วงเดือน ก..-.. โดยด้านล่างของตัวน้ำตกจะมีบริการห้องอาบน้ำและห้องสุขา ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และมีจุดสำหรับนั่งพักผ่อนไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ที่ตั้ง : .สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

48.อ่างเก็บน้ำคลองสียัด

อ่างเก็บน้ำคลองสียัด บรรยากาศยามเย็นที่นี่ดีจริงครับ คนในพื้นที่มาออกกำลังกาย สามารถนำเรือคายัคมาพาย หรือหาเช่าจากรีสอร์ทและที่พักที่มีอยู่แถวอ่างเก็บน้ำและคลองสียัดใต้เขื่อน

นอกจากนี้ที่บ้านทุ่งยายชี หนึ่งในหมู่บ้านพื้นที่คลองสียัดยังพัฒนาขึ้นเป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ โดยเฉพาะจุดเด่นคือการเล่นน้ำและพายเรือคายัคศึกษาธรรมชาติริมคลอง

ที่ตั้ง : .ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา

49.สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์

สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ สวนร่มรื่นขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 200 ไร่พร้อมเส้นทางจักรยานให้ขี่ชมธรรมชาติท่ามกลางพันธุ์ไม้นานาชนิดนอกจากจะเป็นปอดแห่งใหญ่ให้กับคนกรุงเทพฯยังเป็นบ้านของนกประจำถิ่นและอพยพอีกมากมายนอกจากนี้ในสวนยังมีจุดนั่งพักผ่อนริมทะเลสาบกว้างๆสะพานไม้เลียบริมทะเลสาบเรือนเพาะชำหอดูนก

เหมาะสำหรับที่จะแวะมาเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ แล้วก็เช่าจักรยานสักคัน ปั่นออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์

ที่ตั้ง : .วัดราษฎร์รังสรรค์ ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

เปิดปิดเวลา : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 5.00 – 19.00 .

50.บางกระเจ้า

บางกระเจ้า อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว หรือ ปอดใจกลางกรุงฯ อุดมไปด้วยแหล่งโอโซน อากาศบริสุทธิ์มากมายให้เราได้เดินเล่นเย็นใจ ไปปั่นจักรยานชิลล์ ๆ เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่น่าชวนคนรู้ใจมาสัมผัสแม้ว่าวันหยุด หรือ วันธรรมดาก็สามารถเที่ยวกันได้

สำหรับการท่องเที่ยวภายในบางกระเจ้านั้น หลังจากที่เพื่อนๆมาถึงก็สามารถเช่าจักรยาน ราคาคันละ 20 บาท ปั่นเที่ยวชิลๆ ฟินๆ กันได้ บอกเลยว่าทั้งวันก็ไม่มีเบื่อ เพราะที่นี่นอกจากมีตลาดแล้วยังมีอีกหลายๆ มุมให้เพื่อนๆ ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับถ่ายภาพเก๋ๆ กัน

ที่ตั้ง : .บางกระเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ