เมื่อช่วงที่ผ่านมา ทีมงาน เที่ยวตะวันออก.com ได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมงานแถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลกินปลากะพงยักษ์เมืองแปดริ้ว” ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่นี่เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลากะพงยักษ์ที่ถือว่าใหญ่ที่สุด และดีที่สุดในประเทศไทย
ความพิเศษของปลากะพงยักษ์ นั่นคือความใหญ่ยักษ์กว่าปลากะพงขนาดทั่วไปที่เราเคยเจอตามท้องตลาด หรือว่าตามร้านอาหารซึ่งจะมีศัพท์เฉพาะที่เรียกว่า “ปลากะพงไซส์” จะมีน้ำหนักประมาณ 7-9 ขีดเท่านั้น แต่ปลากะพงยักษ์ที่ถือเป็นของดีของจังหวัดฉะเชิงเทรานั้น จะจับขายกันที่ขนาด 4-6 กิโลกรัม โดยบางตัวนั้นมีขนาดใหญ่ยักษ์ถึง 8 กิโลกรัม !
เราเดินทางไปที่ “ขาวผ่องฟาร์ม” ซึ่งเป็นฟาร์มปลากะพงษ์ยักษ์ขนาดใหญ่ในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อไปชมการเพาะเลี้ยงปลากะพงยักษ์ เราไปเจอตอนที่คนงานของฟาร์มกำลังล้อมจับปลากะพงยักษ์ขึ้นจากบ่อเลี้ยงพอดี
คนงานใช้ตาข่ายล้อมไปรอบบ่อ และค่อยๆกันพื้นที่ให้เล็กลงมาเรื่อยๆ เพื่อรวมให้ปลากะพงยักษ์เข้ามาอยู่ในที่แคบและค่อยๆจับขึ้นมาทีละตัว แล้วนำไปใส่ไว้ที่หลังรถกระบะซึ่งมีน้ำอยู่ และต่อสายออกซิเจนไว้ให้เรียบร้อย คนงานทยอยจับปลากะพงยักษ์ขึ้นจากบ่อจนหมด
โดยออเดอร์วันนี้เป็นปลากะพงยักษ์ไซส์ 3-4 กิโลกรัม ซึ่งใช้เวลาเพาะเลี้ยงนานถึง 18 เดือน โดยมีบริษัทใหญ่อย่าง บาร์บีคิว พลาซ่า , ฟู้ดแลนด์ และห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศอย่าง เดอะมอลล์กรุ๊ป ผูกปิ่นโตเป็นลูกค้าหลัก รับซื้อปลากะพงยักษ์ของเมืองแปดริ้วกันแบบไม่อั้น
หลังจากจับปลาขึ้นจากบ่อเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเป็นขั้นตอนของการแปรรูปปลากะพงยักษ์ด้วยวิธีพิเศษที่ประยุกต์มาจากวิธีที่ชาวญี่ปุ่นใช้ในการรับประทานปลาดิบ นั่นคือ การเอาเลือดออกจากตัวปลากะพงยักษ์ให้ได้มากที่สุด โดยใช้ของแหลม แทงเข้าที่บริเวณหัวปลาเพื่อให้ปลารู้สึกชา และใช้มีดกรีดบริเวณเหงือก และโคนหาง
จากนั้นนำไปแช่ไว้ในน้ำเย็นจัด เพื่อให้หัวใจของปลากะพงนั้น ยังคงทำงานต่อไปได้อีกสักพัก จากนั้นจึงนำขึ้นไปจัดเรียงบนรถห้องเย็นและอัดน้ำแข็งเข้าไปเพื่อรอขนส่งไปยังลูกค้าต่อไป วิธีนี้จะทำให้เนื้อปลาปราศจากกลิ่นคาว เก็บรักษาได้นานขึ้น และคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้อย่างสมบูรณ์
ปลากะพงยักษ์ที่โตเต็มวัย น้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 กิโลกรัม เนื้อปลาจะ แน่น หวาน ขาวสวย รสชาติอร่อย อุดมไปด้วยแร่ธาตุโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และที่สำคัญ ปลากะพงยักษ์ของเมืองแปดริ้ว เวลานำไปประกอบอาหารนั้น แทบไม่มีกลิ่นคาวเลย
ในวันนั้นเราได้ลิ้มลองอาหารมากมายหลากหลายเมนู ที่ทุกอย่างล้วนมีปลากะพงยักษ์เมืองแปดริ้วเป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่สลัดปลากะพงยักษ์ทอดกรอบ , ปลากะพงยักษ์ต้มขิง , ปลากะพงยักษ์ผัดพริกไทดำ , ปลากะพงยักษ์ผัดฉ่า , ปลากะพงยักษ์นึ่งซีอิ๊ว , ปลากะพงยักษ์นึ่งมะนาว และอีกมากมายหลากหลายเมนู รวมถึงมีขนมกินเล่น ที่ทำมาจากปลากะพงยักษ์ นั่นคือ ปั้นขลิบไส้ปลากะพงยักษ์ และขนมเปี๊ยะนมสดไส้ปลากะพงยักษ์อีกด้วย เรียกว่าปลากะพงยักษ์เมืองแปดริ้วนั้น เอามาทำอะไรกินก็อร่อยจริงๆ
สปาเกตตี้ขี้เมาปลากะพงยักษ์
ปลากะพงยักษ์ทอดน้ำปลา
สาคูไส้ปลากะพงยักษ์
สลัดปลากะพงยักษ์ทอดกรอบ
สำหรับใครที่อยากลิ้มชิมรสปลากะพงยักษ์เมืองแปดริ้วนั้นสามารถเดินทางมาที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ โดยร้านอาหารใหญ่ในเมืองฉะเชิงเทราที่เข้าร่วมรายการ จะเพิ่มเมนูจากปลากะพงยักษ์เข้ามาให้ได้ลิ้มลองกัน และมีสิทธิพิเศษอื่นๆให้อีกมากมาย
เห็นป้ายนี้ที่ร้านอาหารใดก็ตามในเมืองแปดริ้ว เข้าไปได้เลย มีเมนูจากปลากะพงยักษ์ให้กินแน่นอน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานฉะเชิงเทรา (ดูแลพื้นที่ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ) โทรศัพท์ 038-514-009
