ตัวอย่างโปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยว จังหวัดสมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา (2 วัน 1 คืน)

โปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยว จังหวัดสมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา (2 วัน 1 คืน) เส้นทางที่ 1

………………………………………………………………..

วันแรก

ช่วงเช้า : เดินทางไปช้อป ชิม ชม ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่เกิดจากการรวมตัวกันของชาวบ้าน ชุมชนบางน้ำผึ้ง  และหน่วยงาน อบต. ซึ่งตลาดน้ำบางน้ำผึ้งตั้งอยู่อำเภอพระประแดง จ.สมุทรปราการ

โดยเสน่ห์ของตลาดน้ำแห่งนี้ คือ วิถีชีวิตชาวบ้านริมคลอง และยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและอาหารที่มีชื่อเสียงของชุมชน เช่น ปั้นธูปสมุนไพร หอยทอดขนมครก และมะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการทำผ้ามัดย้อม และเรือพายให้บริการ อัตราค่าเช่าลำละ 20 บาท และท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนและชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามของสวนผลไม้ในชุมชน โดยเช่าจักรยานในราคาคันละ 30 บาท

รับประทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย :  ชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ ที่โดดเด่นสะดุดตา ผสมผสานด้วยงานวิจิตรศิลป์และประณีตศิลป์ภายในแวดล้อมด้วยบรรยากาศสวนป่าหิมพานต์อันรื่นรมย์  ดึงดูดให้ผู้คนแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม แต่ทว่า…ช้างเอราวัณนี้มิได้ทำหน้าที่เป็นเพียงสถานที่เก็บรวบรวม หรือเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปะ ศาสนา และวัฒนธรรมเท่านั้น เพราะสิ่งสำคัญ คือ ช้างนี้ เป็นตัวแทนความยิ่งใหญ่ในแผ่นดินสุวรรณภูมิ และเป็นสัญลักษณ์แห่งสยามประเทศ

-ชม เมืองโบราณ สถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิก ที่เปรียบดังบานประตูที่เผยออกให้เห็นถึง มรดกแห่งภูมิปัญญาไทยด้วยสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมรูปแบบต่างๆ ผสมผสานกับงานวิจิตรศิลป์และประณีตศิลป์ การจัดวางโครงสร้างและสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่  สอดคล้องและสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันก่อให้เกิดบรรยากาศที่โน้มนำให้ผู้มาเยือนได้รับรู้และเข้าใจถึงความสืบเนื่องของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศาสนา ศิลปะ และขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทยในอดีตตราบจนถึงปัจจุบัน  เปิดทุกวันตั้งแต่ เวลา 09.00 น. – 18.00 น.

รับประทานอาหารเย็น

เดินทางเข้าโรงแรมที่พัก

วันที่สอง

ช่วงเช้า : ออกเดินทางไป มินิมูร่าห์ฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์มควายนมสายพันธ์มูร่าห์ แห่งแรกในประเทศไทย

มูร่าห์ฟาร์มเป็นฟาร์มปศุสัตว์อินทรีย์ (Organic Farm) และเป็นต้นแบบของธุรกิจเกษตรกรรมแบบครบวงจรและยั่งยืน ที่เริ่มกระบวนการจัดการตั้งแต่การเพาะปลูกพืชเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ จนถึงขั้นตอนการเลี้ยง รีดนมและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อพร้อมจำหน่ายให้กับผู้บริโภค โดยไม่ใช้สารเคมียาฆ่าแมลง สารกระตุ้นการเร่งน้ำนม หรือฮอร์โมนต่างๆ ในกระบวนการผลิตเลยแม้แต่น้อย ภายในฟาร์มมีกิจกรรมการทำพิซซ่า การทำไอศรีมจากนมมูร่าห์ การปลูกพืชสวนครัว และการดำนา ให้นมควาย ให้อาหารกระต่าย หมู เป็นต้น

รับประทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย

-สักการะหลวงพ่อพุทธโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา ชมความงดงามของพระอุโบสถ ลักษณะเป็นอาคารทรงไทย แบบรัตนโกสินทร์ประยุกต์เฉพาะรัชกาล (รัชกาลที่ 9) โดดเด่น สง่างามอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง รายล้อมด้วยภูมิทัศน์แห่งสายน้ำและธรรมชาติที่สงบร่มเย็น

-ช้อป ชิม ตลาดบ้านใหม่ 100 ปี ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ นับตั้งแต่รุ่นอากง อาม่า หรือเรียกได้ว่าตั้งแต่สมัยคุณตาคุณยายยังสาว มีการขายขนม และอาหาร สิ่งที่น่าสนใจสำหรับตลาดบ้านใหม่คือ การดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมๆ บ้านเรือนเป็นห้องแถวไม้แบบเก่า

– เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ :      กำหนดการนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

………………………………………..

โปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยว  จังหวัดสมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา (2 วัน 1 คืน) เส้นทางที่ 2

วันแรก 

ช่วงเช้า : ชม เมืองโบราณ สถานที่ท่องเที่ยวสุดคลาสสิก ที่เปรียบดังบานประตูที่เผยออกให้เห็นถึงมรดกแห่งภูมิปัญญาไทยด้วยสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมรูปแบบต่างๆ ผสมผสานกับงานวิจิตรศิลป์และประณีตศิลป์ การจัดวางโครงสร้างและสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่สอดคล้องและสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ก่อให้เกิดบรรยากาศที่โน้มนำให้ผู้มาเยือนได้รับรู้และเข้าใจถึงความสืบ เนื่องของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมศาสนา ศิลปะ และขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทยในอดีตตราบจนถึงปัจจุบัน  เปิดทุกวันตั้งแต่ เวลา 09.00 น. – 18.00 น.

เดินทางไป สถานตากอากาศบางปู อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของจังหวัดสมุทรปราการ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแบบพักผ่อนตากอากาศทางชายทะเลด้านอ่าวไทยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์

อาทิ เส้นทางเดินชมป่า ชมนก โดยมีจำนวนนกมากกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกนางนวลจำนวนเป็นพันเป็นหมื่นตัวที่อพยพหนีหนาวจากไซบีเรีย  มาในช่วงต้นฤดูหนาว ประมาณกลางเดือนตุลาคม-พฤษภาคมของทุกปี

– รับประทานอาหารกลางวัน ณ สถานตากอากาศบางปู

ช่วงบ่าย:  เดินทางไปสักการะ วัดหงษ์ทอง อำเภอบางปะกง ในบริเวณพื้นที่ชายทะเลที่เป็นป่าชายเลน มีทางเดินเชื่อมจากบริเวณวัดที่ ชายฝั่งไปยังพระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากร ปราชญ์ ศรนิล อนุสรณ์ และอุโบสถซึ่งอยู่ในทะเล เจดีย์มี 5 ชั้นมีภาพวาดเกี่ยว กับพุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์ไทย และประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ

ส่วนชั้นบนสุดเป็นเจดีย์สีทองอร่ามบรรจุพระอรหันต์ธาตุ สามารถมองเห็นทัศนียภาพท้องทะเลและแผ่นดินในมุมสูงได้สวยงาม ทางเดินที่ทอดยาวไปในทะเลไปยัง “พระธาตุคงคามหาเจดีย์”

 เดินทางไป มินิมูร่าห์ฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์มควายนมสายพันธ์มูร่าห์ แห่งแรกในประเทศไทย

มูร่าห์ฟาร์มเป็นฟาร์มปศุสัตว์อินทรีย์ (Organic Farm) และเป็นต้นแบบของธุรกิจเกษตรกรรมแบบครบวงจรและยั่งยืน ที่เริ่มกระบวนการจัดการตั้งแต่การเพาะปลูกพืชเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ จนถึงขั้นตอนการเลี้ยง รีดนมและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อพร้อมจำหน่ายให้กับผู้บริโภค โดยไม่ใช้สารเคมียาฆ่าแมลง สารกระตุ้นการเร่งน้ำนม หรือฮอร์โมนต่างๆ ในกระบวนการผลิตเลยแม้แต่น้อย ภายในฟาร์มมีกิจกรรมการทำพิซซ่าเต่าถ่าน การทำไอศรีมจากนมมูร่าห์ การปลูกพืชสวนครัว และการดำนา ให้นมควาย ให้อาหารกระต่าย หมู เป็นต้น

– รับประทานอาหารเย็น และเดินทางเข้าที่พัก จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่สอง                 

ช่วงเช้า :  เดินทางไป ชุมชนตำบลคลองเขื่อน (เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร นิเวศ และวัฒนธรรมในเขตชุมชน) พื้นที่ตำบลคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทราได้รับเลือกให้เป็น พื้นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรและแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญทางการเกษตร นักท่องเที่ยวจะได้ทำ  กิจกรรมนั่งรถเปิดประทุน (รถอีแต๊ก) ชมไปยังสถานที่ต่างๆ ได้แก่  สวนมะม่วงน้ำดอกไม้ที่มีคุณภาพระดับการส่งออก เที่ยวชมสวน และเป็นสวนที่เกษตรกรใช้เป็นตัวอย่างในการผลิตมะม่วงคุณภาพ และสวนหมากพลู ไหว้พระ และฟังตำนานวัดคลองเขื่อนและหลวงพ่อรอด กิจกรรมนอนกระดานไฟ

– รับประทานอาหารกลางวัน แบบสุขภาพ ปลอดสารพิษ ณ ชุมชนตำบลคลองเขื่อน

ช่วงบ่าย : เดินทางไปสักการะ อุทยานแห่งชาติพระพิฆเนศองค์ยืน  ตั้งอยู่ใน อ.คลองเขื่อนจ.ฉะเชิงเทรา ภายในอุทยานประดิษฐานองค์พระพิฆเนศองค์ยืน เนื้อสำริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูง 30 เมตร หากรวมแท่นประดิษฐานจะมีความสูงรวมกันเกือบ    40 เมตร  โดดเด่นท่ามกลาง ธรรมชาติของสวนเกษตรของชาวบ้าน  เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย

เนื่องจากประติมากรรมของ พระพิเนศ องค์นี้มีสิ่งที่  โดดเด่น คือ พระหัตถ์ทั้ง 4 ถือ พืชพรรณและธัญญาหาร ดังนี้ กล้วย ยอดอ้อย มะม่วง ขนุน  และที่พระบาทมีหนูกอด ลูกมะพร้าวซึ่งมีความหมาย คือ ความอุดมสมูบรณ์ของแผ่นดิน ซึ่งการจัดสร้างจะต้องมีการหล่อในแต่ละส่วนขององค์พระพิฆเนศ จำนวนทั้งสิ้น 854 ชิ้น ในแต่ละครั้งที่หล่อชิ้นส่วนองค์พระพิฆเนศจะมีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิตและในการหล่อ องค์พระพิฆเนศวาระต่างๆ มีการอัญเชิญเทพอย่างถูกต้องตามหลักพิธีกรรม

บริเวณรอบองค์พระพิฆเนศมีซุ้มจัดบูชาพระพิฆเนศ ติดๆกันสามารถกราบไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ย  เทพเจ้าผู้ประทานโชคลาภ พระแม่กวนอิมเทพเจ้าผู้ประทานความ เมตตา  เทพเจ้าตี่จั่งอ้วง หรือ เต่จงอ๋อง พระกษิติครรภโพธิสัตว์ หรือเทพเจ้าผู้ไถ่บาป

– เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ :  กำหนดการนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม