ตัวอย่างโปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยว จังหวัดจันทบุรี (2 วัน 1 คืน)

โปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี (2 วัน 1 คืน) เส้นทางที่ 1

วันแรก

ช่วงเช้า

– เดินทางเข้าชม สวนป้าแกลบ เป็นสวนผลไม้ของจังหวัดจันทบุรี ที่เป็นเจ้าแรกที่คิดค้นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางเกษตรให้กลายเป็นสินค้าของกินและของใช้ในครัวเรือน เช่น ทุเรียน สแน็ก คุกกี้สิงคโปร์ ขนมผิง ตลอดจนน้ำพริก น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม และน้ำยาซักผ้า

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์แปรรูปเหล่านี้เป็น สินค้าโอท็อปติดดาว ของฝากประจำจังหวัดจันทบุรี นอกจากนี้ สวนป้าแกลบจะเปิดให้เข้าชิมบุฟเฟ่ต์ ผลไม้สดใหม่จากต้น ซึ่งมีทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด สละ ฯลฯ  (ช่วงฤดูกาลผลไม้ ประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม)

– เดินทางไปหาดเจ้าหลาว เที่ยวจุดชมวิว “เนินนางพญา” ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ถนนเลียบ ทะเลตะวันออกที่สวยงามที่สุด “Scenic Route” เส้นทางชมวิวที่สวยงาม เส้นทางคดเคี้ยวเลียบเลาะภูเขาขนานไปกับผืนทะเล และมีจุดชมวิวเหมาะกับการถ่ายภาพเพื่อบันทึกความทรงจำ

– ออกเดินทางไป จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเทียบเรือประมงบ้านหัวแหลม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี

นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวสวย ความโดดเด่นของจุดชมวิวบ้านหัวแหลม นักท่องเที่ยวจะได้เดินทอดน่องชมวิวสวย ๆ บนสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวท่ามกลางน้ำทะเล ระยะทางประมาณ 50 เมตร เป็นสะพานที่สร้างขึ้นจากพลังแห่งศรัทธาของชาวบ้าน เป็น  ทางเดินเพื่อสักการะ “เจดีย์บ้านหัวแหลม” แต่สะพานไม้ยาวไม่ถึงเจดีย์ และจะสามารถเดินถึงก็ต่อเมื่อช่วงเวลาน้ำลด ซึ่งสร้างเจดีย์นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจนั่นเอง

– รับประทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย

– เดินทางไป วิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเกษตรเขาบายศรี ตั้งอยู่ตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ เป็นการรวมตัวกันของแม่บ้านเกษตรกร ตำบลเขาบายศรี ที่มีสวนผลไม้เป็นหลักในการมาหาเลี้ยงชีพและพัฒนาสู่การแปรรูปผลไม้ที่มีในฤดูเพื่อเพิ่มมูลค่าทางการตลาดในช่วงหมดฤดูผลไม้ และชมขั้นตอนวิธีการทำทุเรียนทอด ทุเรียนกวน นอกจานั้นยังมีสินค้าจำหน่าย เช่น ทุเรียนสแน็ค ทอฟฟี่หัวจุก ข้าวเกรียบปลา น้ำพริก และทุเรียน เงาะ มังคุด สละ (ช่วงฤดูกาลผลไม้ประมาณ  เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม)

ช่วงเย็น

– รับประทานอาหารเย็น และเดินทางเข้าโรงแรมที่พัก จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันสอง

ช่วงเช้า

– เดินทางไป โอเอซิส ซีเวิล์ด  ซึ่งตั้งอยู่ ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 30 ก.ม. เป็นสถานที่เพาะพันธุ์โลมา และชมการแสดงโลมา 2 สายพันธุ์ไทย นั่นก็คือ โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู และโลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี และนอกจากการแสดงโลมาแล้วนั้นโอเอซีส ซีเวิลด์ก็ยังเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกับโลมาด้วย จับได้ สัมผัสได้ พร้อมทั้งช้อปของที่ระลึกและของฝากก่อนเดินทางกลับ

– รับประทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย

– เดินทางชม ตึกแดง แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 เดิมเป็นที่ตั้งของ ป้อมพิฆาตปัจจามิตรซึ่งสร้างขึ้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 ต่อมาเมื่อฝรั่งเศสเข้ามายึดเมืองจันทบุรี ได้ยึดป้อมแห่งนี้ลงและสร้างตึกแดงเพื่อเป็นที่พักและกองบัญชาการทหารฝรั่งเศส มีลักษณะเป็น ตึกชั้นเดียวหลังคามุงกระเบื้อง

– เดินทางชม คุกขี้ไก่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 เมื่อฝรั่งเศสได้เข้ายึดจันทบุรี ในกรณีพิพาทกันด้วยเรื่องดินแดงฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ฝรั่งเศสได้สร้างคุกขี้ไก่ เพื่อใช้กักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีช่องระบายอากาศอยู่ 2 แถว หลังคาโปร่งเพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ ซึ่งจะถ่ายมูลราดศีรษะนักโทษที่ถูกคุมขังตลอดเวลา

– แวะซื้อของฝากตลาดเนินสูง และเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ : กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

…………………………………………………

โปรแกรมเส้นทางท่องเที่ยว จังหวัดจันทบุรี (2 วัน 1 คืน) เส้นทางที่ 2

วันแรก

ช่วงเช้า

– สักการะ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและศาลหลักเมือง” ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนี้ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับศาลหลักเมืองจันทบุรี อยู่บนถนนท่าหลวง บริเวณหน้าค่ายตากสิน  อาคารของศาลฯ เป็นรูปทรงเก้าเหลี่ยม หลังคาเป็นรูปพระมาลา (หมวกยอดแหลม) สวยงามโดดเด่นมาก ภายในศาล  ประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

– เดินทางชม ชมบ้านหลวงราชไมตรี บ้านขุนนางที่ปัจจุบันเป็นโรงแรมประวัติศาสตร์ที่มี  เรื่องราวความเป็นมาทาง ชุมชนริมน้ำจันทบูร ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 300 ปี ย่านเศรษฐกิจแห่งแรกของจังหวัดจันทบุรีที่ยังคงเอกลักษณ์ชุมชนค้าขายชาวไทย-จีน อาคาร  โบราณเรียงรายตลอดแนวถนนขนานกับแม่น้ำจันทบูร แม่น้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวจันทบุรี

ปัจจุบันยังคงเป็นย่านการค้า มีร้านค้าดั้งเดิม เช่น ร้ายขายเครื่องใช้ ร้ายขายพลอย ร้ายขายขนมโบราณ ร้านไอศรีมตราจรวดต้นตำหรับ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีร้านกาแฟชิคชิค และมุมถ่ายรูปเก๋เก๋ มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมตลอดทาง และสามารถเดินเชื่อมไปชมอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล โบสถ์โรมันคาทอลิค อายุกว่า 100 ปี  รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และยังเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยภายในประดิษฐาน พระแม่มารีประดับพลอยจันทบุรีกว่า 200,000 เม็ด ปัจจุบันยังคงเป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ช่วงเช้า

– รับประทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย

– เดินทางไปชมนิทรรศการและรับฟังบรรยายกระบวนการผลิตอัญมณีในขั้นตอนต่างๆ ณ ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนมหาราชในเมืองจันทบุรี  เป็นศูนย์แสดงและส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับถาวรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ ในเอเชีย พร้อมทั้งเดินชม ช้อป อัญมณีและเครื่องประดับภายในศูนย์

– รับประทานอาหารเย็น

– เดินทางเข้าโรงแรมที่พัก

วันที่สอง

ช่วงเช้า    

– เดินทางไป โอเอซิส ซีเวิล์ด  ซึ่งตั้งอยู่ ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ ห่างจาก  ตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 30 ก.ม. เป็นสถานที่เพาะพันธุ์โลมา และชมการแสดงโลมา 2 สายพันธุ์ไทย นั่นก็คือ โลมาปากขวดหรือโลมาสีชมพู และโลมาหัวบาตรหรือโลมาอิระวดี และนอกจากการแสดงโลมาแล้วนั้นโอเอซีส ซีเวิลด์ก็ยังเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกับโลมาด้วย จับได้ สัมผัสได้

– รับประทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย

– เดินทางเข้าชม สวนป้าแกลบ เป็นสวนผลไม้ของจังหวัดจันทบุรี ที่เป็นเจ้าแรกที่คิดค้นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางเกษตรให้กลายเป็นสินค้าของกินและของใช้ในครัวเรือน เช่น ทุเรียน สแน็ก คุกกี้สิงคโปร์ ขนมผิง ตลอดจนน้ำพริก น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม และน้ำยาซักผ้า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์แปรรูปเหล่านี้เป็น สินค้าโอท็อปติดดาว ของฝากประจำจังหวัดจันทบุรี

นอกจากนี้ สวนป้าแกลบจะเปิดให้เข้าชิมบุฟเฟ่ต์ ผลไม้สดใหม่จากต้น ซึ่งมีทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด สละ ฯลฯ  (ช่วงฤดูกาลผลไม้ ประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม) พร้อมทั้งช้อปของที่ระลึกและของฝากก่อนเดินทางกลับ

-เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ :  กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม