10 ที่เที่ยวนครนายก พักผ่อนแบบสบายใจ ด้วยทริปใกล้ๆ แบบไปเช้า-เย็นกลับ

เพราะการท่องเที่ยวใกล้กรุงยังได้รับความนิยมเสมอ เพราะด้วยการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย แถมยังเสียค่าใช้จ่ายไม่มากและ นครนายก ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เต็มไปด้วยจุดท่องเที่ยวที่หลากหลาย เลือกเที่ยวได้ทั้งธรรมชาติ หรืออิ่มเอมกับการทำบุญสำหรับนักท่องเที่ยวสายบุญ แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ให้แวะไปเช็กอิน ถ่ายรูปสวย ๆ เพิ่มขึ้นทุกปี

ว่าแล้วอย่ารอช้ามาเริ่มต้นเปิดทริปที่สดใส ทริปแรกด้วยการเที่ยวเช็คอินแหล่งท่องเที่ยวใน จ.นครนายก กันดีกว่า แล้วคุณจะรู้ว่าที่นี่มีสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวที่ดีซ่อนไว้มากมาย

1. เขื่อนขุนด่านปราการชล

ที่ตั้ง : บ.ท่าด่าน ม. 2 ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก

ชื่อเดิมคือ “เขื่อนคลองท่าด่าน” หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเขื่อนแห่งนี้ เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก มีความยาวรวม 2,720 ม. ความสูง (สูงสุด) 93 ม. สร้างกั้นแม่น้ำนครนายกเพื่อจัดสรรทรัพยากรน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของชาวนครนายก รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างเท่าเทียม

เขื่อนนี้สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวง ร.9 เพื่อเก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนไว้ในหน้าแล้ง และควบคุมไม่ให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร ไร่นาและพื้นที่การเกษตรในหน้าฝน โดยสร้างครอบฝายท่าด่านเดิม

ไฮไลท์หลักของการเดินทางมาเที่ยวชมเขื่อนแห่งนี้ คือสามารถชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จากบริเวณสันเขื่อนด้านหน้า และชมทิวทัศน์เมืองนครนายกด้านหลังเขื่อน รวมถึงมีการจัดตั้งโครงการในอนาคตเพื่อใช้เป็นแหล่งพักผ่อน รองรับกิจกรรมทางกีฬาในอนาคต

ส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ ล่องแก่งลำน้ำนครนายก ชมพันธุ์ไม้นานาชนิด พร้อมกับเรียนรู้เรื่อง การสร้างเขื่อนภายในพิพิธภัณฑ์ขุนด่านปราการชลตลอดจนชมอาคารที่ประทับเทิดพระเกียรติในหลวง ร.9 และพระบรมวงศานุวงศ์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา

2. น้ำตกเหวนรก

ที่ตั้ง : ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก

แค่ได้ยินชื่อหลายคนน่าจะนึกภาพออกว่าเป็นน้ำตกใหญ่และน่ากลัวขนาดไหน เพราะเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และภาคกลาง เมื่อเดินเข้าไปใกล้น้ำตกจะพบกับสายน้ำที่ไหลมารวมตัวกันแล้วทิ้งตัว 90 องศา ลงมายังพื้นล่างจนกลายเป็นละอองน้ำลอยไปทั่วผืนป่า

ลักษณะเด่นของน้ำตกเหวนรกคือมี 3 ชั้น โดยน้ำตกชั้นแรกที่มีความสูง 50 ม. ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 1 กม. และไต่บันไดเหล็กลงไปสู่จุดชมวิวอีก 200 ม. สำหรับชั้นที่ 2 และ 3 นั้นอยู่สูงขึ้นไปอีก ซึ่งมีความสูงรวมกันถึง 150 ม. แต่บริเวณดังกล่าวยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเนื่องจากสภาพป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์สูงและเป็นพื้นที่หากินของสัตว์ป่ามากมาย

3. น้ำตกนางรอง

ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก

ราคาค่าเข้า : รถยนต์โดยสาร (รวมบุคคล) 150 บาท, รถยนต์เล็ก (รวมบุคคล) 50 บาท, รถตู้ (รวมบุคคล) 100 บาท, รถจักรยานยนต์ 10 บาท และบุคคลคนละ 5 บาท

น้ำตกสวยที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีลักษณะน้ำตกที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ บริเวณผาหินซึ่งมีความสูงไม่มากนัก อีกหนึ่งสถานที่เติมเต็มความสุขและพื้นฟูพลังในการทำงานได้เป็นอย่างดี เพราะด้วยบรรยากาศความร่มรื่นของผืนป่าที่โอบล้อมน้ำตกเอาไว้ นักท่องเที่ยวหลายคนจึงมักเดินทางมาเที่ยวนั่งปิกนิก และเล่นน้ำคลายร้อนกันเป็นจำนวนมาก พิเศษสุด ๆ สำหรับผู้ที่้ต้องการ พักผ่อนแบบค้างคืนที่อุทยานฯก็มีบริการที่พัก ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าเช่นกัน

4. น้ำตกสาริกา

ที่ตั้ง : ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

ราคาค่าเข้า : ค่าเข้าชมชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็ก 20 บาท, ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท     

อีกหนึ่งน้ำตกสวยที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลักษณะเด่นที่แตกต่างไปจากน้ำตกอื่น ๆ คือลักษณะของน้ำตกที่มีความกว้างใหญ่ไหลจากหน้าผาเป็นทอดถึง 9 ชั้น โดยความสูงของหน้าอยู่ที่ประมาณ 200 ม. สำหรับน้ำตกสาลิกา นั้นจะสวยที่สุดในช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. โดยด้านล่างของตัวน้ำตกจะมีบริการห้องอาบน้ำและห้องสุขา ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และมีจุดสำหรับนั่งพักผ่อนไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

5. อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ

ที่ตั้ง : ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก

สถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัวในช่วงสุดสัปดาห์น่าจะเป็นนิยามของ อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ ได้อย่างชัดเจน เพราะด้วยความสวยงามของผืนน้ำตัดกับภูเขาที่รายล้อมอ่างเก็บน้ำเอาไว้นักท่องเที่ยวจึงเลือกเดินทางมาพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ที่นี่เสมอ

นอกจากนี้ที่นี่ยังถูกใช้เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำของ จ.นครนายก เนื่องจากมีศักยภาพในการเล่นเรือกรรเชียง เรือแคนนูน้ำเรียบ เรือใบ และวินด์เซิฟในบางฤดูแถมยังมีถนนลาดยางรอบอ่างที่เหมาะสำหรับออกกำลังกายอีกด้วย

6. อุทยานวังตระไคร้

ที่ตั้ง : 222 ม. 1 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

ราคาค่าเข้า : รถทุกประเภทคันละ 150 บาท (ผู้โดยสารไม่เกิน 8 ท่าน) เกิน 8 ท่าน เพิ่มท่านละ 10 บาท 

เวลาเปิดปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.

โทรศัพท์ :  037 385 164-5, 081 989 0365

จุมภฏ-พันธุ์ทิพย์ อุทยาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อุทยานวังตะไคร้” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อระดับต้น ๆ ของจังหวัดนครนายก ซึ่งอุทยานแห่งนี้ ที่นี่เกิดขึ้นจากพระปณิธานของกรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิจและหม่อมราชวงศ์หญิงพันธุ์ทิพย์บริพัตร เพื่อหวังให้เป็นสถานที่บ่มเพาะความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ และได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้เมื่อปีพ.ศ. 2505

ภายในเต็มไปด้วยกิจกรรมชมไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่กว้างกว่า 1,500 ไร่ ยังเปิดให้เยี่ยมชมบ้านทรงไทยโบราณ อาทิ บ้านธารทิพย์, บ้านแก่ง, บ้านเกาะ, บ้านใหญ่ และด้วยบริเวณโดยรอบวังตะไคร้แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่และพรรณไม้นานาชนิด

แถมยังมีธารน้ำ 2 สายไหลผ่านให้ความชุ่มชื้นตลอดทั้งปีที่แห่งนี้จึงเหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อน ดื่มด่ำธรรมชาติและอากาศอันบริสุทธิ์ เล่นสนุกไปกับกิจกรรมเล่นน้ำ ล่องแก่งและกิจกรรมผจญภัยต่าง ๆ เพื่อเติมพลังกายและพลังใจได้เป็นอย่างดี

7. หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับคลอง 15

ที่ตั้ง : รังสิตคลอง 15 ต.คลองใหญ่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก

เวลาเปิดปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น.

เว็บไซต์ : http://www.papad-garden.com/

หากเพื่อน ๆ ต้องการชมช้อปตลาดดอกไม้ ต้องไม่พลาดชม “หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับคลอง 15” เส้นทางสายดอกไม้ใหญ่ที่สุดในไทย กับพื้นที่ริมฝั่งถนนคลอง 15 ที่อัดแน่นไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดระยะทางกว่า 8 กม. และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่ง Unseen Thailand ประจำ จ.นครนายก

ภายในตลาดเราสามารถเลือกซื้อ ต้นไม้ ดอกไม้ได้อย่างจุใจอาทิ พืชผักสวนครัว สมุนไพร สวนไม้หอม สวนไม้มงคล รวมไปถึงอุปกรณ์ในการปลูก และดูแลรักษาต้นไม้ อีกทั้งยังสามารถรับความรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูกได้ที่ศูนย์สาธิตการตลาด ม.11 ณ ที่ทำการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสันติธรรมสามัคคี (สวนป้าผาด) ร้านจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับที่ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องการเพาะชำ การดูแล และการจำหน่ายพันธุ์ไม้แก่ทุกคนที่สนใจ

8. Nayok Sheep Farm

ที่ตั้ง : 118 หมู่ 10 ต.สาริกา อ. บ้านนา จ.นครนายก

เวลาเปิดปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-18.30 น.

โทรศัพท์ : 095 515 2559

“Nayok Sheep Farm” หนึ่งในฟาร์มแกะเปิดใหม่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เปิดให้คุณได้ท่องเที่ยวในบรรยากาศแสนสบายคล้าย ๆ กับอยู่ในต่างประเทศ ท่ามกลางฝูงแกะ สนุกสนานไปกับการเลี้ยงอาหารเจ้าแกะขนฟู พร้อมถ่ายรูปสวย ๆ ไว้เป็นที่ระลึก ใกล้ ๆ ฟาร์มยังเปิดเป็นร้านกาแฟสุดเก๋ ที่บริการเครื่องดื่มกาแฟชั้นดี เมนูอาหารอร่อย ๆ สะอาด แถมภายในยังมีกิจกรรมเลี้ยงปลาคราฟดูดขวดนม นก ม้า กระต่าย รวมถึงมุมถ่ายรูปสวย ๆ ให้แช๊ะภาพกันอยู่จุใจ

9. พ.ฟาร์ม

ที่ตั้ง :  ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก

โทรศัพท์ : 083 543 1820

ใครที่ต้องการลิ้มรสผลไม้รสเลิศอย่างเมล่อน พลาดไม่ได้กับ “พ.ฟาร์ม” ที่รับรองว่าปลอดสารพิษแน่นอนด้วยการเพาะปลูกในโรงเรือนแบบปิด พร้อมเปิดสวนให้เราได้เข้าไปตัดลูกเมล่อนสด ๆ ชิมสด ๆ จากต้น

อีกทั้งยังสามารถทำขนมอร่อย ๆ อาทิ ซาลาเปาเมล่อน สมูทตี้เมล่อน สาคูเมล่อน และไอศกรีมโฮมเมด นอกจากการเข้าเยือมชมฟาร์ม และร่วมทำกิจกรรมสุดสนุกแล้วยังสามารถเลือกซื้อเมล่อนสด และผลิตภัณฑ์จากฟาร์มไปเป็นของฝากได้อีกด้วย

10. อุทยานพระพิฆเนศ

ที่ตั้ง : ม.11 ถ.นครนายก-น้ำตกสาริกา (สี่แยกประชาเกษม) ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ศักดิ์สำหรับกราบไหว้ขอพรต้อนรับปีใหม่ “อุทยานพระพิฆเนศ” ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ประดิษฐานของเทวรูป พระพิฆเนศปางประทานพร องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หน้าตักกว้าง 9 ม.

ใกล้ ๆ กันจะเป็นที่ตั้งของพระพิฆเนศปางไสยาสน์ ด้านหลังยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมองค์พระพิฆเณศจำนวนถึง 108 ปาง และหอมหาเทพ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระศิวะ พระพรหม พระวิศณุ ฯลฯ ด้านหน้าพระพิฆเณศ มีหนูหูทิพย์

โดยมีความเชื่อว่าเมื่อกระซิบขอพรที่หูหนู หนูก็จะนำพรที่เราขอไปบอกกับพระพิฆเณศ วิธีการคือปิดหูหนู 1 ข้างแล้วกระซิบกับหูอีก 1 ข้างของหนูพรที่ของพระพิฆเณศ