ปราจีนบุรี จังหวัดเล็กที่มากไปด้วยจุดท่องเที่ยวสุดพีคมากมาย วันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ ไปลิสต์รายชื่อแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์หลักที่ห้ามพลาดเมืองมีโอกาสมาเยือนปราจีนบุรี เพราะด้วยพื้นที่ธรรมชาติ อากาศก็ดี
แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่น่าไปผุดขึ้นมากมายจนเลือกไปเที่ยวไม่หลาดไม่ไหว ส่วนจะมีที่ไหนน่าสนใจ น่าไปแช๊ะภาพสวยอวดลงโซเชียลบ้างนั้นตามไปชมแบบเต็ม ๆ กันได้เลย
1. ดาษดา แกลเลอรี่
ที่ตั้ง : 179 หมู่ 12 ถนนปราจีน-เขาใหญ่ ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
เว็บไซต์ : https://www.dasada-happiness.com
โทร. : 037 239 800
เปิดทริปเที่ยวเมืองปราจีนบุรี ด้วยการแวะไปชมแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยดอกไม้สวย ๆ ที่มีให้ชมตลอดทั้งปีกับ “ดาษดาแกลเลอรี่” สถานที่เช็กอิน ถ่ายรูปฮอตฮิตที่มาถึงปราจีนบุรีเมื่อไหร่ก็ต้องไม่พลาด
เพราะที่นี่คือสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบความงามของดอกไม้ ชมความมหัศจรรย์ของศิลปะการจัดดอกไม้สดในแกลเลอรีเรือนกระจก ที่หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตามเทศกาลและฤดูกาล เพื่อให้ความสุขหลายรูปแบบ พลาดไม่ได้เลยกับการชิมไอศกรีมดอกไม้ที่หอมหวานชื่นใจ และเลือกซื้อดอกไม้สด ไม้กระถาง และของที่ระลึกสำหรับคนรู้ใจ
สำหรับกิจกรรมไฮไลท์นอกจากการเข้าชม แช๊ะภาพสวย ๆ กับดอกไม้แบบเก๋ ๆ กันแล้วยังมี กิจกรรมเวิร์คช็อปดอกไม้ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอดปี กับดอกไม้จาก dasada Blooming Farm
ดาษดาไม่ได้มีแต่ดอกไม้เพียงอย่างเดียว ที่นี่ยังมีสวนสัตว์เล็ก ๆ ให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและสนุกสนานไปกับความแสนรู้นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถจัดเต็มไปกับการพักผ่อนแบบสบาย ๆ ด้วยห้องพักที่มีให้เลือกหลากหลายได้อีกด้วย
2. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี
ที่ตั้ง : ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
โทร. : 0 3721 1586
เว็บไซต์ : https://www.virtualmuseum.finearts.go.th/prachinburi/index.php/th/ และ https://www.facebook.com/prachinburimuseum/
แวะไปท่องเที่ยวค้นหาความรู้ทางประวัติศาสตร์กันบ้างกับ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี” แหล่งท่องเที่ยวที่อักแน่นไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และงานศิลปะในสมัยในจังหวัดทางภาคตะวันออกและจังหวัดใกล้เคียง และยังเป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดีประจำภูมิภาคตะวันออกอีกด้วย
แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะจัดแสดงเกี่่ยวกับศิลปโบราณคดีในภูมิภาคตะวันออก แบ่งเป็นศิลปโบราณคดีในจังหวัดปราจีนบุรี และศิลปโบราณคดีในจังหวัดใกล้เคียง ส่วนชั้นบนจัดแสดงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในภาคตะวันออก ศิลปโบราณคดีในประเทศไทย
ตั้งแต่ศิลปะทวารวดี ศิลปะศรีวิชัย ศิลปะล้านนา ศิลปะเขมรโบราณ ศิลปะสุโขทัย ศิลปะอยุธยา และศิลปะรัตนโกสินทร์ เครื่องถ้วยเขมร เครื่องเบญจรงค์และลายน้ำทอง เครื่องถ้วยสังคโลก และโบราณคดีใต้น้ำ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับจัดนิทรรศการชั่วคราวในโอกาสต่าง ๆ
3. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ที่ตั้ง : 32/7 หมู่ 12 ต.ท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 08.30-20.30 น.
โทร. : 037 211 088
ศูนย์บริการสุขภาพแบบผสมที่เป็นเลิศและเป็นผู้นำด้ายการแพทย์แผนไทยในอาเซียน โดดเด่นด้วยตึกสีเหลืองสวย ๆ ก่อสร้างด้วยประติมากรรมสไตล์ยุโรป เป็นโรงพยาบาลที่มีความสำคัญ
โดยดำเนินงานด้านการพัฒนาสมุนไพรมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ด้วยความมุ่งหวังที่จะทำให้ภูมิปัญญาในการใช้สมุนไพรของประเทศไทยได้รับการสืบสาน และทำหน้าที่เป็นสะพานที่ทอดเชื่อมระหว่างความรู้ภูมิปัญญาดั้งเดิมกับคนสมัยใหม่ ทำให้สมุนไพรที่เคยรุ่งเรืองในอดีตสามารถกลับมามีบทบาทอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีทางเภสัชกรรม การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และความรู้ทางพฤกษศาสตร์พื้นบ้าน อันเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณที่สั่งสมขึ้นมายาวนานเข้าด้วยกัน
นอกจาก “โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” จะให้บริการด้านการแพทย์แล้ว เราสามารถเดินเที่ยวรับความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ สมุนไพร ในจัดต่าง ๆ ภายในตึกได้อีกด้วย ส่วนใครที่อยากใช้บริการสปา ต้องไม่พลาดอภัยภูเบศรเดย์สปา
โดยสามารถเข้าบริการได้ในทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00-20.00 น. ส่วนใครที่มองหาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพร ที่นี่ก็มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร ในราคาย่อมเยา
4. พิพิธภัณฑ์อยู่ศุขสุวรรณ
ที่ตั้ง : 135 ถนนปราจีนตคาม ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
โทร. : 037 218 511, 037 218512, 08 1295 8218
เว็บไซต์ : https://www.yusuksuwan.com/history.php
เพื่อนที่อยากท่องเที่ยวในสถานทีที่สามารถเชื่อมโยงโลกอดีตมาสู่ปัจจุบันได้ “พิพิธภัณฑ์อยู่ศุขสุวรรณ” คือหนึ่งในคำตอบนั้นแน่นอน เพราะด้วยบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ที่รายล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดบนพื้นที่กว่า 17 ไร่
จัดตั้งขึ้นโดยคุณณรงค์-วิภาวรรณ์ อยู่สุขสุวรรณ์ ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ จากความเป็นนักสะสม สนใจและมีความหลงใหลในวัตถุโบราณ จนภายในบ้านพักอาศัยกลายเป็นแหล่งรวมของเก่ามากมาย
ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วย 5 อาคาร ได้แก่ อาคารที่ 1 อาคารราชาวดีเป็นอาคารสองชั้นที่ได้รวบรวมของใช้โบราณต่าง ๆ เช่น เตารีดโบราณ เครื่องทองเหลือง ตู้เย็นใช้น้ำมันก๊าด
รวมทั้งตะเกียงเจ้าพายุหลากรูปแบบที่ปัจจุบันสามารถหาดูได้ยาก อาคารที่ 2 คืออาคารลีลาวดี เป็นอาคารแฝดที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดและมีสองชั้น รวบรวมเครื่องใช้โบราณ หลากหลายชนิด
อาคารที่ 3 ชื่ออาคารชวนชม เป็นอาคารชั้นเดียว ภายในจัดแสดงรูปเก่าของเมืองปราจีนบุรี ในสมัยก่อนและรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร. 9 เมื่อครั้งเสด็จมาเยือนเมืองปราจีนบุรี
อาคารที่ 4 คืออาคารเจ้าพายุ เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเป็นรูปทรงตะเกียงไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ รวมทั้งในบริเวณดังกล่าวยังมีสถานที่ไว้สำหรับให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วยและอาคารที่ 5 คือ อาคารเจ้าฟ้าประดิษฐ์รวบรวมเรือหลากหลายชนิดจัดเรียงรายไว้ให้ชมกันอย่างตื่นตา
5. วัดแก้วพิจิตร
ที่ตั้ง : ถนนแก้วพิจิตร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
พระอารามหลวง ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2 กม. ตัววัดเด่นชัดด้วยสถาปัตยกรรมภายในวัดที่ผสมผสานทั้งแบบไทย จีน ยุโรปและเขมร เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ยิ่งเมื่อย่างก้าวเข้าไปในพระอุโบสถ เราสามารถตื่นตาตื่นใจไปกับภาพวาดบนแผ่นผ้า ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งวาดโดยช่างหลวงในสมัยรัชกาลที่ 6 ทั้งการการถอดปริศนาธรรมต่าง ๆ เพื่อเตือนใจมนุษย์
อาทิเช่น นาฬิกาไม่ยอมเที่ยงอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนแก้ว ปริศนาธรรมด้านการปกครอง ขณะเดียวกันเมื่อออกมาด้านหน้าพระอุโบสถจะพบอาคารเรียน หนังสือไทยนักธรรมบาลี ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีต รูปสถูปโดม ศิลปะกรีกโรมันดูแปลกตา
ส่วนไฮไลท์สำคัญที่หลายคนไม่อยากพลาดคือ การเข้าไปนมัสการกราบไหว้พระอภัยวงศ์ พระประธานในพระอุโบสถวัดแก้วพิจิตรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
6. น้ำตกธารทิพย์
ที่ตั้ง : บ.เนินตั้ง ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
อีกหนึ่งสถานที่ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ สวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบเย็นฉ่ำกับ ความงดงามของธารน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินต่างระดับจากชั้นบนสุดสู่เบื้องล่างเป็นภาพทางธรรมชาติที่น่าหลงใหล ชวนให้ใครต่อใครอยากแวะเวียนไปสัมผัสความฉ่ำเย็นของสายน้ำ
และใน อ.ประจันตคาม ขึ้นชื่อว่าเป็นอำเภอที่มีน้ำตกมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่ง “น้ำตกธารทิพย์” ถือเป็นไฮไลท์ของน้ำตกยอดฮิต ซึ่งเป็นน้ำตกเล็กๆ ไหลมาตามลานหินผ่านช่องเขาแคบที่ขนาบข้าง ก่อนตกลงจากผาสูงประมาณ 5 เมตร
และเป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง งดงามเป็นอย่างยิ่งในช่วงของสายน้ำไหลผ่านลานหินบริเวณกว้างบางช่วงเป็นแอ่งน้ำลึก นักท่องเที่ยวสามารถ ลงเล่นน้ำได้อย่างชุ่มฉ่ำ มีลานหินสำหรับนั่งพักผ่อน ฝั่งซ้ายของลำธารลักษณะค่อนข้างสูงชันสภาพโดยทั่วไปยังเป็นป่าที่คงความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติบรรยากาศร่มรื่น เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างดี
7. อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์
ที่ตั้ง : ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
แวะไปนั่ง ๆ นอน ๆ ชิล ๆ ริมอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์ ชื่นชมทัศนียภาพเหนืออ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขาอีโต้ แหล่งต้นน้ำสำคัญโดยมียอดเขาที่เป็นจุดชมวิวไฮไลท์ที่ห้ามพาดเมื่อเดินทางมาถึง “อ่างเก็บน้ำจักรพงษ์” ซึ่งสามารถนำรถยนต์ขับขึ้นไปได้ในระยะทาง 11 กิโลเมตรและช่วงกิโลเมตรที่ 6 ยังจะได้ชวนฉงนกับเนินพิศวงที่ยาวประมาณ 150 เมตร เพียงจอดรถแล้วปลดเกียร์ว่าง รถจะไหลขึ้นเนินเขาได้ราวกับมีมือดีมาช่วยผลัก
สำหรับกิจกรรมท่องเที่ยวในบริเวณอ่างเก็บน้ำจักรพงษ์นั้นมีทั้งปั่นจักรยาน เดินเล่น หรือชมวิวตามแนวสันเขื่อน โดยช่วงเวลาเหมาะที่สุดคือตอนเช้าตรู่และในช่วงฤดูหนาวยังจะได้สัมผัสสายหมอกขาวได้อย่างเต็มตาอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งจัดท่องเที่ยวที่ควรแวะมาเช็กอินเป็นอย่างมาก
8. แก่งหินเพิง
ที่ตั้ง : ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ใครที่รักในกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบผจญภัย ต้องแวะมาที่ “แก่งหินเพิง” โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนตุลาคมที่นี่จะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เร้าใจ กับกิจกรรมล่องแก่งหินเพิงกลางสายน้ำเชี่ยว ซึ่งแก่งหินเพิงจัดเป็นแก่งในระดับ 3-5
การล่องแก่งต้องอาศัยแพยางที่จุได้ 8-10 คนต่อลำ ล่องผ่านแก่งต่าง ๆ กลางสายน้ำสีขาวที่ไหลเชี่ยวกราก พลาดไม่ได้กับ “แก่งสไลเดอร์” ที่นักท่องเที่ยวสามารถลงไปนอนเล่นในน้ำได้ปล่อยตัวลอยขนาน ไปกับสายน้ำสร้างความสนุกสนานมากมายสุด ๆ
9. อุทยานแห่งชาติทับลาน
ที่ตั้ง : ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อพูดถึงอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ นักท่องเที่ยวหลายคนคงรู้จักในชื่อ “อุทยานแห่งชาติทับลาน” ด้วยเนื้อที่ 1,397,375 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี ที่นี่ยังถือเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารสำคัญหลายสาย เนื่องจากมียอดเขาสูงสุดอย่าง “ยอดเขาละมั่ง” สูงที่ระดับ 992 เมตรซึ่งมีความสมบูรณ์มากทั้งป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้ง
สำหรับจุดสำคัญของอุทยานแห่งชาติทับลาน คือ บริเวณบ้านทับลาน บ้านขุนศรี บ้านบุพราหมณ์และบ้านวังมืด จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ “ป่าลาน” เป็นป่าผลัดใบที่มีสภาพเป็นป่าโปร่งมีต้นลานขึ้นอย่างหนาแน่นทั่วพื้นที่
โดยป่าลานนี้มีเนื้อที่ 200 ไร่ บริเวณที่ราบบนเขาละมั่ง ด้าน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเต็มไปด้วยไม้ลานเป็นพืชในตระกูลปาล์ม (Palmae) บริเวณป่าลานและป่ารุ่นยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอีกด้วย
10. ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ที่ตั้ง : ต.โคกปีบ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี
หากต้องการชมต้นโพธิ์ต้นแรกของเมืองไทย ที่ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี คือสถานที่แห่งคำตอบของคุณ เพราะที่นี่มีต้นโพธิ์ในตำนานที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ที่ว่ากันว่าเป็นกิ่งโพธิ์จากต้นโพธิ์ต้นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าทรงประทับบำเพ็ญธรรมจนสำเร็จตรัสรู้เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตามตำนานเล่าสืบต่อกันว่าในอดีตพระเจ้าทวานัมปะยะดิษฐ์ เจ้าผู้ครองเมืองศรีมโหสถ ทรงมีความเลื่อมใสในพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงส่งคณะทูตเดินทางไปขอกิ่งต้นโพธิ์จากพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยาจากเจ้าผู้ครองนครปาตุลีบุตร ประเทศอินเดียเพื่อนำมาปลูกไว้ที่วัดพระศรีมหาโพธิ์
ปัจจุบันต้นโพธิ์ต้นนี้ ก็กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งในวันสำคัญทางพุทธศาสนาที่นี่มักจะมีงานนมัสการต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นประจำทุกปี เพื่อสัมผัสขนาดความใหญ่ของต้นโพธิ์ ที่มีการวัดเส้นรอบวงของลำต้น 20 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 25 เมตร และสูงตระหง่านถึง 30 เมตร ทำให้แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปมากมายกลายเป็นร่มเงาและให้ความร่มเย็นขยายไปทั่วบริเวณ
นี่เป็นเพียงตัวเลือกเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาจุดท่องเที่ยวในปราจีนบุรีที่พลาดไม่ได้กันอยู่ ว่าแล้วลองจัดทริปท่องเที่ยวแบบใกล้ ๆ แพ็คกระเป๋าเดินทางไปเที่ยวในวันหยุดสั้น ๆ กันดีกว่า