ยกบ้านไปเที่ยว !15 แหล่งเรียนรู้แสนสนุกนอกห้องเรียน ภาคตะวันออก

ปิดเทอมไปเที่ยวไหนดีนะ  หลายครอบครัวคงกำลังวางแผนพาเจ้าตัวเล็กไปเที่ยวกันอยู่ใช่ไหมล่ะ

วันนี้เรามีแหล่งท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวใกล้ๆ ในภาคตะวันออก มาชวนทุกคนไปเช็ตอินและเสริมสร้างประสบการณ์เจ้าตัวเล็กกัน มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง

1.มินิมูร่าห์ ฟาร์ม จ.ฉะเชิงเทรา ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงปศุสตว์ ที่รับรองเลยว่า เด็กๆ ที่มาเที่ยวที่นี่จะต้องชอบอย่างแน่นอน

เป็นฟาร์มควายนมพันธุ์มูราห์แห่งแรกในบ้านเรา ซึ่งไม่เพียงเด็กๆ จะหลงรัก เพราะกระทั่งผู้ใหญ่ก็ยังตกหลุมรักน้องควายเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย

โดยในส่วนของมินิมูร่าห์ฟาร์ม เปรียบเสมือนหน้าบ้านและส่วนรับแขกไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว มีกิจกรรมหลากหลายทั้งให้อาหารสัตว์ต่างๆ ควายมูร่าห์ , กระต่าย , หมู , เป็ด , แพะ ฯลฯ แถมยังมีกิจกรรมเรียนรู้การทำนา , ทำไอศกรีมนมควาย , ปลูกต้นไม้ในกระถางเล็ก และกิจกรรมทางเกษตรอื่นๆ ให้เจ้าตัวเล็กของคุณได้ทำอีกเพียบ

บอกเลยว่าเป็นสถานที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับการพาครอบครัวมาเที่ยวมากๆ จะเด็กจะผู้ใหญ่รับรองสนุกไม่แพ้กัน แถมยังได้ความรู้กลับไปอีกด้วย สามารถเข้าชมฟาร์มได้ฟรี แต่จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ครับ

ที่ตั้ง : ต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

โทรศัพท์ : 081 819 2819

เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ร้านอาหาร 10.00-20.00 น.

พิกัด : https://g.page/MiniMurrahFarm?share

2.Cococowboy จ.ฉะเชิงเทรา ชวนสวนมะพร้าวร่มรื่นในบรรยากาศสบายๆ พร้อมเครื่องดื่มอร่อยๆ กาแฟมะพร้าวปั่นคือทีเด็ด รวมทั้งขนมโคโค่บอล ไอติมมะพร้าว วุ้นมะพร้าว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมฐานเรียนรู้เกี่ยวกับมะพร้าว ตั้งแต่วิธีการเก็บมะพร้าว เผามะพร้าว แปรรูป และอื่นๆ อีกเพียบ

ที่ตั้ง : ต.บางตลาด อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา

โทรศัพท์ : 099 275 7425

เวลาเปิด-ปิด : 09:00-17:00 น. เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ วันธรรมดาควรติดต่อล่วงหน้า

พิกัด : https://g.page/cococowboy?share

3.เมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ  ใครที่ยังไม่สะดวกไปเที่ยวทั่วไทยก็มาเที่ยวที่นี่แทนได้ เพราะเมืองโบราณเขายกมาไว้หมดแล้วทั้ง 4 ภาคทั่วไทย เช่น พระที่นั่งสรรเพชรปราสาท วัดภูมินทร์ จ.น่าน และที่อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เมืองโบราณยังจำลองรูปแบบสังคมไทยยุคเก่าๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เข้าไปชมกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงน้ำชา โรงเหล้า ตลาดโบราณ บรรยากาศของโคมเขียวสมัยก่อน รวมทั้งเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องบุพเพสันนิสวาสด้วย

ที่ตั้ง :  ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

เวลาเปิด-ปิด : 09:00–19:00 น. ทุกวัน

โทร. 0 2323 4094-9

4.ศูนย์เรียนรู้ภูกะเหรี่ยง จ.นครนายก

เป็นบ้านที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษของ บอย หนุ่มนครนายก ลูกหลานชาวลาวเวียงจันทน์อพยพ ที่เบื่อออฟฟิศเมืองกรุง เลยกลับมารีโนเวทบ้านไม้หลังเก่าแก่ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บของสะสมโบราณ และลามไปถึงนาข้าวกว่า 60 ไร่ หลังบ้าน พร้อมทางเดินสีฟ้าสุดเก๋ เลาะเลื้อยไปกับนาข้าวที่ปลูกกันจริงๆ บอยเล่าว่า แถวนี้เป็นถิ่นฐานของชาวลาวอพยพมาตั้งแต่โบราณ คนด้านนอกจึงเรียกว่าย่านเขากะเหรี่ยง กลายเป็นชื่อที่บอยหยิบมาตั้งเป็น ภูกะเหรี่ยง

เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ 8:00–18:00 น. ค่าเข้าชมคนละ 49 บาท แลกเครื่องดื่มได้ 1 แก้ว กิจกรรมด้านในมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

สอบถาม โทร. 081 868 9841

5.สวนไดโนเสาร์ปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี

สวนไดโนเสาร์ ปราจีนบุรี มีอีกชื่อน่ารักว่า ไดโนอิ ปาร์ค ใครผ่านมาเที่ยวทางน้ำตกตะคร้อต้องไม่พลาดเพิ่มไว้ในโปรแกรม รับรองว่าถ่ายรูปกันเพลินแน่นอน ในสวนมีรูปปั้นไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ตั้งกระจายทั่วบริเวณที่แซมไปด้วยต้นไม้ใหญ่และพืชตระกูลปาล์ม มีทั้งเจ้าทีเร็กซ์ แร็ปเตอร์ ไทรเซราทอปส์ แบรคิโอซอรัส ฯลฯ บางตัวก็กำลังขู่คำราม บางตัวกำลังต่อสู้กัน เหมือนมีชีวิตจริง ทั้งหมดเป็นงานปั้นและเพ้นท์สีด้วยมือโดยช่างท้องถิ่นรุ่นใหม่ และนอกจากไดโนเสาร์แล้วช่างยังปั้นตัวละครในวรรณคดีอย่างยักษ์และหนุมาน ไปจนถึงมังกร คิงคอง และก็อตซิล่า

ที่ตั้ง : ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

เวลาเปิด-ปิด : 08:00-17:00 น. เปิดทุกวัน

โทร. : 084 870 9592

6.โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ จ.สระแก้ว

ชวนไปท่องเที่ยว “โรงเรียนกาสรกสิวิทย์” หรือ “โครงการธนาคารโคกระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริเขต จ.สระแก้ว” ที่อัดเน้นไปด้วยความรู้ทางการเกษตร ซึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจภายในโครงการ ได้แก่ การอบรมเกษตรและฝึกกระบือ นิทรรศการ งานวิจัย แปลงนา สระมะรุมล้อมรัก และการทำบ้านดิน ซึ่งนอกจากการเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนกาสรกสิวิทย์แล้ว ยังสามารถเข้าไปจิบกาแฟหอม ๆ คลายร้อนที่ร้านกาแฟ “ควายคะนอง” ได้อีกด้วย

ที่ตั้ง : เลขที่ 999 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว

โทรศัพท์ : 037-244-615, 037-244-657, 088-289-1299

7.เพอคูล่า ฟาร์ม (ฟาร์มปลาการ์ตูน) จ.ชลบุรี 

ที่นี่ก็ถือเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์และซื้อขายปลาการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดในไทยเลยทีเดียว

มีทั้งสายพันธุ์ที่พบในไทยและสายพันธุ์จากต่างประเทศ ปัจจุบันเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับปลาทะเล โดยเฉพาะปลาการ์ตูน ทั้งเรื่องการเพาะพันธุ์และเลี้ยงอย่างถูกวิธี รวมทั้งชมโรงเรือนขนาดใหญ่ที่มีทั้งบ่อเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และลูกปลารวมนับแสนๆตัว

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนั่งเรือไปให้อาหารปลาทะเลในกระชัง มีทั้งปลาช่อนทะเล ปลาทูทอง ปลาฉลาม ปลาโฉมงาม ปลาหูช้าง เป็นต้น

ที่ตั้ง : บ้านช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เวลาเปิด-ปิด : 08:30-17:00 น. เปิดทุกวัน ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

โทร. : 081 439 3998

8.สวนนงนุช จ.ชลบุรี

แหล่งรวบรวมพรรณไม้ต่างๆ โดยเฉพาะเขตร้อนเอาไว้หลากหลายติดอันดับโลก รวมทั้งฝีมือจัดสวนที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ ซึ่งบางคนที่เคยมาเที่ยวชมสวนกันบ้างแล้วคงไม่คิดว่าจะมีอะไรใหม่ แต่ต้องบอกว่าสวนนงนุชมีมากกว่าสวนจริงๆ เลยอยากให้มาลองของใหม่ที่เด็ดไม่แพ้ของเดิม เริ่มกันที่ฝึกทำอาหารใน Nongnooch Healthy House ที่รายล้อมไปด้วยสวนผักปลอดสารพิษ มีทั้งสอนทำสลัดโรลแบบง่ายๆ ไปจนถึงสอนทำผัดไทย อธิบายทุกขั้นตอนโดยเชฟมืออาชีพจนคนทำกับข้าวไม่เป็นก็ทำกินเองได้

ที่ตั้ง : ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เวลาเปิด-ปิด : 08:00-17:00 น. ทุกวัน

9. Pipo Pony Club จ.ชลบุรี

ฟาร์มม้าแคระแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย แต่เหนือไปกว่านั้นคือกิจกรรมด้านในที่พร้อมจะสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัยจริงๆ โดยกิจกรรมที่ห้ามพลาดคือชมการแสดงขี่ม้าผาดโผน ควงแส้และปืนแบบคาวบอย ไปจนถึงควงกระบองไฟสุดระทึก โดยบรรดาสตั๊นแมนมืออาชีพ นอกจากการแสดงแล้ว ด้านนอกยังจัดเป็นคอกม้าขนาดใหญ่ มีเจ้าม้าแคระคอยต้อนรับและรอกินแครอทจากเราด้วย

ที่ตั้ง : ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เวลาเปิด-ปิด : 08:00-18:00 น. ทุกวัน

โทร. : 038 249 565, 038 249 566

10. อาลาคอมปาณย์ พัทยา

จำลองบรรยากาศเมืองชนบทยุโรปมาไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Somtum Villa ร้านอาหารในอาคารบรรยากาศสุดชิลล์ที่แวะมาชิมได้ นอกจากนี้ยังมี Shop & Gallery ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าที่ระลึก คัดสรรโดยเน้นงานฝีมือแฮนด์เมดของคนไทย และ Farm and Veggies Village พื้นที่ฟาร์มสำหรับปลูกผักแบบอินทรีย์ และเลี้ยงสัตว์อย่างอิสระ มีทั้งแปลงผักให้เดินชม มีสนามเด็กเล่น รวมทั้งกิจกรรมน่ารักๆ อย่างเก็บไข่ไก่จากเล้า และป้อนหญ้าม้าและแพะด้วย

ที่ตั้ง : ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เวลาเปิด-ปิด : 10:00-21:00 น. ทุกวัน

โทร. : 091 780 1254

11.สถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำระยอง จ.ระยอง

ที่นี่เป็นสถานที่รวบรวมแหล่งข้อมูลมาจัดไว้ให้ชมในที่เดียวเหมาะมาก ๆ สำหรับการพาเด็ก ๆมาเรียนรู้ ทัศนศึกษา ส่วนภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1. ส่วนจัดแสดงพันธุ์สัตว์ทะเลที่มีชีวิต แบ่งย่อยออกเป็นหลายบ่ 2.ส่วนจัดแสดงนิทรรศการด้านการประมงทั้งแบบถาวรและแบบหมุนเวียน และพิพิธภัณฑ์เปลือก หอย เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ห้ามพลาดเลยก็ว่าได้ เพราะอัดแน่นไปด้วยความรู้ สามารถมองเห็นขอจริงได้อย่างใกล้ชิดแบบไม่ต้องดำไปดูใต้ทะเลเลยก็ว่าได้

ที่ตั้ง : 2 ม.2 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง

เวลาเปิดปิด : วันพุธ–ศุกร์ เวลา 10.00–16.00 น., วันเสาร์–อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00–17.00 น.  หยุดวันจันทร์-อังคาร

โทรศัพท์ :  038 651 764

12. Rayong Smile Plant จ.ระยอง

ที่นี่เป็นทั้งร้านจำหน่ายพันธุ์ไม้โดยเฉพาะต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง ที่มีหลากหลายสายพันธุ์

รวมทั้งเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องการเพาะพันธุ์ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงให้กับผู้ที่สนใจด้วย ด้านในตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่ร่มรื่น แปลกตาด้วยฝักต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ห้อยลงมาจากกระถางเต็มไปหมด ซึ่งนอกจากจะสามารถแวะมาโพสต์ท่าถ่ายรูปเก๋ๆ ได้แล้ว

ที่นี่ยังเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่มีเครื่องดื่มทั้งกาแฟ ชาเขียว ชาไทย โกโก้ โซดาต่างๆ ให้บริการ รวมทั้งอาหารกินเล่นที่ไม่เหมือนใครแต่น่าลอง อย่างหม้อข้าวหม้อแกงลิงทอดกรอบ หรือส้มตำหม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นต้น

ที่ตั้ง : ต.ตาขัน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

เวลาเปิด-ปิด : 08:00-18:00 น. เปิดวันเสาร์-อาทิตย์

โทร. : 099 154 2609

13.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ห้องเรียนธรรมชาติที่กินพื้นที่ป่าชายเลนกว่า 2 พันไร่ของอ่าวคุ้งกระเบน มีโซนต่างๆ ให้เราได้เรียนรู้มากมายถึงสิ่งแวดล้อมของป่าชายเลน สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ไปจนถึงหน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีกระชังปลาขนาดใหญ่ในทะเล

เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและลองให้อาหารปลาฉลามตัวน้อยๆ ดูปลาหมอทะเล เต่าทะเล เรียนรู้เรื่องธนาคารปูม้า แล้วมาลงเขี่ยไข่ปูเพื่อนำไปปล่อยลงทะเล มาช่วยกันทำอีแปะหรือบ้านหอยนางรม เผลอๆ อาจจะได้ชิม-ช้อปสาหร่ายพวงองุ่นแบบสดๆ ที่ทางศูนย์ศึกษาฯ ได้เพาะขยายพันธุ์ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่นั่นเอง

ที่ตั้ง : ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น. โทร. 0-3938-8116-8

14.โอเอซิส ซี เวิลด์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี

มาดูการแสดงของโลมาสายพันธุ์ไทย มีทั้งโลมาปากขวดสีชมพูและโลมาหัวบาตรที่ฉลาดแสนรู้ และยังไปป้อนอาหาร ว่ายน้ำ หรือจูจุ๊บกับน้องโลมาแบบใกล้ชิดอีกด้วย รับรองว่าความน่ารักของซุป’ตาร์โลมาจะต้องถูกอกถูกใจทุกคนในครอบครัว

นอกจากนี้ที่โอเอซีส ซี เวิลด์ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกเช่น ให้อาหารและถ่ายรูปกับเจ้ากวางรูซ่า ป้อนนมปลาคาร์ฟ หรือให้อาหารปลาหมอทะเลยักษ์ ถ้าหิวก็ตรงดิ่งไปร้าน “ท่องนที Seafood” ที่พร้อมให้บริการซีฟู้ดและอาหารพื้นบ้านเมืองจันท์ เรียกว่ามาที่โอเอซีส ซี เวิลด์ มีครบครันทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวเลยจริงๆ

ที่ตั้ง : ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี

โทร. 039-499222

15.สวนสละสมโภชน์ จ.ตราด

ที่นี่ปลูกสละพันธุ์สุมาลี มีรสชาติหวาน หอม อร่อย ที่สำคัญคือ เนื้อเยอะ ผลใหญ่เต็มคำ ด้วยประสบการณ์การปลูกสละของเจ้าของสวนมากกว่า 30 ปี สละที่สวนสมโภชน์จึงได้รับการปลูกและดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจึงทำให้ได้สละสุมาลีที่มีคุณภาพเป็นของดีขึ้นชื่อจังหวัดตราด และเป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกสละ ตั้งแต่การผสมพันธ์ุ การดูแล ไปจนถึงการเก็บผลผลิต ที่ถ้ามาได้เห็นเด็กๆ ต้องร้องว้าวแน่นอน

ที่ตั้ง : สวนสละสมโภชน์ บ้านเลขที่ 219 บ้านท้ายวัง ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด

โทร. 081-4382015 , 039-674840