ภาคตะวันออก นอกจากมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ มากมายให้เที่ยวชมแล้ว ยังมีวัดและพระศักดิ์สิทธิ์ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปกราบไหว้ขอพรกันอย่างเนืองแน่น
มาดูกันว่ามีวัดไหนอยู่ใกล้บ้านบ้าง หรือถ้ามีเวลาจะชวนครอบครัว หรือแก็งค์เพื่อนขับรถเดินทางไปเที่ยวชมทำบุญด้วยกันก็มีความสุขไม่ใช่น้อย
1.วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ
อยู่ติดกับตลาดน้ำโบราณบางพลี เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชต่อพม่า ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อโต พระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัยลืมเนตร ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก นอกจากนี้ในช่วงวันขึ้น 11 ค่ำ ถึงวันที่ 14 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ยังมีงานประเพณีรับบัว บริเวณริมคลองบางพลี ซึ่งมีความเก่าแก่และสวยงามมาก
ที่ตั้ง : ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เวลาเปิด-ปิด : 06:00–18:00 น. ทุกวัน
โทร. : 081 925 2844
2.วัดบางพลีใหญ่กลาง จ.สมุทรปราการ
หรือที่ชาวบ้านที่นี่เรียกว่า วัดพระนอน เนื่องจากในมหาวิหารของวัดเป็นที่ประดิษฐาน พระศากยมุนีศรีสุเมธบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางสีหไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในองค์พระนอนยังเป็นแบ่งออกเป็น 4 ชั้น โดยชั้นบนสุดเป็นห้องประดิษฐานหัวใจพระนอนที่เราสามารถนำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ด้วย
ที่ตั้ง : ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เวลาเปิด-ปิด : 06:00–18:00 น. ทุกวัน
โทร. : 02 337 3455
3.วัดมงคลโคธาวาส จ.สมุทรปราการ
วัดมงคลโคธาวาส ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดคลองด่าน เป็นวัดที่หลวงพ่อปาน เกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยรัชกาลที่ 4 เคยจําพรรษาอยู่และพัฒนาวัด จนกลายเป็นวัดสําคัญของอําเภอบางบ่อในปัจจุบัน นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของวัดซึ่งหันหน้าสู่คลองด่านยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสําหรับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
ที่ตั้ง: ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
4.วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา
วัดเก่าแก่คู่เมืองแปดริ้ว ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพสักการะของคนไทย ให้ต่างหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้และขอบารมีจากหลวงพ่อเพื่อปกป้องคุ้มครอง มีความเชื่อในการบนบานด้วยไข่ต้มในสิ่งที่ตนปรารถนา ซึ่งหากเทียบกับปริมาณของไข่ต้มที่มีคนนำกลับมาแก้บนทุกวัน ก็น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อได้เป็นอย่างดี
ที่ตั้ง : ถ.เทพคุณากร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
เวลาเปิด-ปิด : 07:00-16:30 น. ทุกวัน
โทร. : 038 511 048
5.วัดจีนประชาสโมรสร จ.ฉะเชิงเทรา
หรือวัดเล่งฮกยี่มีความเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ถือเป็นหนึ่งใน 3 วัดที่ประกอบกันขึ้นเป็นตัวมังกร นั่นคือ วัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพฯ เป็นหัวมังกร วัดเล่งฮัวยี่ จ.จันทบุรี เป็นหางมังกร ส่วนท้องมังกร อยู่ที่วัดเล่งฮกยี่ แห่งนี้ ภายในวัดประดิษฐาน ท้าวจัตุโลกบาลขนาดใหญ่ 4 องค์ พระประธาน 3 องค์และองค์ 18 อรหันต์ รูปหล่อเทพเจ้าไฉ่เซ่งเอี้ย รวมทั้งระฆังใบใหญ่น้ำหนักกว่า 1 ตัน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ใบในโลก เป็นวัดที่มีผู้ให้ความเลื่อมใส มาทำพิธีสักการะพญามังกรกันมาก
ที่ตั้ง : ถ.ศุภกิจ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
เวลาเปิด-ปิด : 08:00–17:00 น. ทุกวัน
โทร. : 038 511 069
6.วัดสมานรัตนาราม จ.ฉะเชิงเทรา
เมื่อมาถึงจังหวัดฉะเชิงเทราแล้วก็มักจะนึกถึงสถานที่ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราเริ่มกันที่ วัดสมานรัตนาราม ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางประกง ที่นี่ประดิษฐานพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งกล่าวกันว่าหากใครได้สักการะแล้ว จะมีความสุขความสบาย ไร้ทุกข์ อิ่มหนำสำราญ มีโชคลาภ เหมือนปางนอนเสวยสุขขององค์พระพิฆเนศนั่นเอง
ที่ตั้ง : ต.ก้อนแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
เวลาเปิด-ปิด : 06:00–18:00 น. ทุกวัน
โทร. : 081 983 0400
7.วัดแก้วพิจิตร จ.ปราจีนบุรี
วัดในนิกายธรรมยุติแห่งแรกของจ.ปราจีนบุรี โดดเด่นที่พระอุโบสถซึ่งสร้างโดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งไทย จีน ยุโรปและเขมรส่วนภายใน นอกจากประดิษฐาน หลวงพ่ออภัย พระประธานที่ได้รับพระราชทานนามจากรัชกาลที่ 5 ยังจะได้พบกับความประณีตผ่านภาพวาดเรื่องราวพระพุทธศาสนาบนแผ่นผ้า วาดโดยช่างหลวงในสมัยรัชกาลที่ 6 แถมยังซ่อนปริศนาธรรมเอาไว้ เช่น นาฬิกาไม่ยอมเที่ยง ปริศนาธรรมด้านการปกครอง ขณะที่ด้านหน้าจะพบอาคารเรียนหนังสือไทยนักธรรมบาลี เป็นรูปสถูปโดมแบบศิลปะกรีกโรมัน ดูแปลกตาด้วย
ที่ตั้ง : ถ.แก้วพิจิตร อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 08:30-17:00 น. ทุกวัน
โทร. : 037 212 759
8.วัดพราหมณี จ.นครนายก
วัดพราหมมณี หรือ วัดหลวงพ่อปากแดง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนมักเดินทางมาเพื่อกราบไว้ขอพระเสมอ สำหรับหลวงพ่อปากแดงถือเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ที่มีเรื่องเล่าในอดีตที่ว่าชาวลาวอพยพได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้มาจากนครเวียงจันทร์จนกลายเป็นศูนย์กลางแห่งความศรัทธาในวัดพราหมมณีแห่งนี้ องค์พระพุทธรูปโดดเด่นด้วยทรงเครื่องดอกพิกุล มีพระโอษฐ์สีแดงซึ่งเป็นที่มาของชื่อหลวงพ่อปากแดงนั่นเอง
นอกจากนี้บริเวณใกล้วัดยังเป็นที่ตั้งของตลาดโรงเกลือ แหล่งช้อปปิ้งละลายทรัพย์สำหรับนักท่องเที่ยวและนักช้อปตัวยงอีกด้วย
ที่ตั้ง : ม. 9 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
9.หลวงพ่อขาว วัดนครธรรม จ.สระแก้ว
มานมัสการ “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อปูน” พระพุทธรูปโบราณอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ต้องไม่พลาดเดินทางมาที่ วัดนครธรรม วัดสำคัญของ จ.สระแก้ว ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ สร้างด้วยปูนขาวซึ่งเป็นดินขาวจากหนองดินจี่ โดดเด่นด้วยลักษณะกำลังนั่งขัดสมาธิ หน้าตักกว้าง 130.9 เซนติเมตร และสูง 199 เซนติเมตร
นอกจากนี้ภายในวิหารหลวงพ่อขาวยังประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจาก วัดปมะดุลลาราชะมหาวิหาร เมืองรัตนปุระ ประเทศศรีลังกา กล่าวสำหรับประวัติวัดนครธรรมแห่งนี้ เดิมมีชื่อว่า “วัดสระลพ” ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อวัดนครธรรมเพื่อเป็นเกียรติแก่พระครูวิวัฒน์นครธรรม ซึ่งเป็นพระภิกษุผู้มีคุณูปการต่อวัดนี้
ที่ตั้ง : ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว
เวลาเปิดปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-19.00 น.
10.วัดป่าประดู่ จ.ระยอง
พระอารามหลวงแห่งแรกของ จ.ระยอง แต่เดิมเป็นวัดร้างจนมีพระอุปัชฌาย์เทียนมาบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน จึงเกิดการปฏิสังขรณ์วัดจนเจริญสืบต่อมา ความน่าสนใจอยู่ที่องค์พระพุทธไสยาสน์เก่าแก่ ในท่านอนตะแคงซ้าย ซึ่งต่างจากทั่วไปที่มักจะอยู่ในท่านอนตะแคงขวา สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้ในวิหารยังประดิษฐาน พระพุทธรูปปางปาเลไลยก์ ที่เก่าแก่มากเช่นกัน นักท่องเที่ยวที่แวะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัด ยังถือโอกาสลอดช่องใต้โบสถ์เก่าแก่ เพื่อสะเดาะเคราะห์ เเละความสิริมงคลแก่ชีวิตด้วย
ที่ตั้ง : อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-17:00 น. ทุกวัน
โทร. : 038 611 320
11.วัดละหารไร่ จ.ระยอง
วัดเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่พ.ศ. 2354 โดยมีหลวงพ่อสังข์เฒ่าเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก แต่วัดละหารไร่มาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจากชื่อเสียงของ หลวงปู่ทิม อิสริโก พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีลูกศิษย์ลูกหาให้ความนับถือในด้านวิชาคาถาอาคม ซึ่งภายในวัดได้สร้างรูปหล่อขนาดใหญ่ทาสีทองของหลวงปู่ทิมตั้งอยู่โดดเด่นเพื่อให้ผู้ที่เลื่อมใสได้มากราบไหว้บูชา นอกจากนี้ภายในวัดซึ่งมีบริเวณกว้างขวางยังมีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นเรือนพลายแก้ว สะพานแขวน สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ รูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้สักการะตามความเชื่อส่วนบุคคล
ที่ตั้ง : ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
เวลาเปิด-ปิด : 08:00-16:00 น. ทุกวัน
โทร. : 086 988 1268
12.วัดเขตร์นาบุญญาราม เดิมชื่อว่า “วัดเพื๊อกเดี้ยนตื่อ” ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 หรือกว่า 170 ปีมาแล้ว ก่อนเปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบันในสมัยรัชกาที่ 5 โดยชาวญวณที่อพยพเข้ามาอาศัยในประเทศไทย เป็นวัดญวณ-อนัมนิกายกลางใจเมืองจันทบุรีที่มีอุโบสถสถาปัตยกรรมไทยผสมจีนที่งดงาม และยังมีชื่อเสียงในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีนเกี่ยวกับเทศกาลบูชาดาวนพเคราะห์ที่สืบทอดกันมาถึง 170 ปี รวมทั้งเทศกาลถือศิลกินเจ ที่จัดเป็นประจำทุกปีด้วย
ที่ตั้ง : ถ.เบญจมราชุทิศ ต.วัดใหม่ อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 06:00-18:00 น. เปิดทุกวัน
โทร. : 039 311 329
13.วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี
เป็นวัดที่มีภูมิทัศน์งดงามแห่งหนึ่งของจันทบุรี ตั้งอยู่บริเวณเขาสุกิม ด้านหน้าเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ส่วนภายในวัด นอกจากวิหารและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยรอบ จะเห็นตัวอาคาร 60 ปีเฉลิมพระเกียรติ สูง 4 ชั้น ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินเขา ซึ่งสามารถขึ้นถึงได้ทั้งทางบันไดนาคและรถราง เป็นทั้งที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่และมีค่าหลายองค์ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์วัดเขาสุกิม ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุจำนวนมาก และมีห้องจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งพระเกจิอาจารย์ของไทย เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่วัน พระอาจารย์มั่น ฯลฯ ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ขึ้นมากราบสักการะด้วย
ที่ตั้ง : ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 06:30-17:00 น. เปิดทุกวัน
โทร. : 039 495 243
14.วัดมังกรบุปผาราม จ.จันทบุรี
วัดมังกรบุปผาราม หรือวัดเล่งฮัวยี่ เป็นวัดพุทธมหายานฝ่ายจีนนิกายที่ก่อตั้งมาตั้งแต่พ.ศ. 2520 ถือเป็นวัดแห่งที่ 3 ที่สร้างต่อจากวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) ที่กรุงเทพฯ และวัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายในวัดมีทั้งซุ้มประตูวัด หอแปดเหลี่ยม รวมทั้งวิหารประดิษฐานพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ปางพันมือพันตา วิหารพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ วิหารบรรพบุรุษ ฯลฯ ที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมีจีนอย่างละเอียดอ่อนงดงาม นอกจากบรรยากาศที่สงบร่มรื่น ยังเป็นสถานที่ที่ชาวพุทธนิยมแวะมาสักการะ สะเดาะเคราะห์แก้ปีชง เพราะถือเป็นส่วนหางมังกรของวัดทั้ง 3 ด้วย
ที่ตั้ง : ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 06:00-18:00 น. เปิดทุกวัน
โทร. : 039 397 210
15.วัดบุปผาราม จ.ตราด
มาเที่ยวเสริมสิริมงคลกันบ้างกับวัดงามเมืองตราด “วัดบุปผาราม” หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดปลายคลอง” ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปลายคลอง ถนนพัฒนาการปลายคลอง ต.วังกระแจะ อ.เมือง ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาทำให้บริเวณวัดมีสถานที่น่าสนใจที่ห้ามพลาดหลาย อาทิ พิพิธภัณฑ์วัดบุปผาราม สถานที่รวบรวมวัตถุโบราณทั้ง พระพุทธรูป, เครื่องถ้วยจีน-ยุโรป และกลองมะโหระทึก
ภาพจิตรกรรมฝาผนังและวิหารพระพุทธไสยยาสน์ เป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่น่าชม พร้อมด้วยหมู่กุฏิเล็กทรงไทย หอสวดมนต์ ที่เป็นศาลาไม้ยกพื้นสูงองค์เจดีย์ และวิหารฝากระดานก่ออิฐถือปูน รูปลักษณ์คล้ายเรือสำเภาสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
ที่ตั้ง: อ.เมือง จ.ตราด
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-17.00 น.