ททท.ตะวันออก ยก More Fun 9 จังหวัดบุกกรุง จัดหนักในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 23-27 ม.ค. ุ62

วิบูลย์ นิมิตวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมเคลื่อนทัพ MORE FUN  9 จังหวัดที่ดูแลแบบจัดเต็ม โดยจะยกการท่องเที่ยวสีสันใหม่ของทั้งภาคมาไว้ในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562” ในระหว่าง 23-27 มกราคม 2562 ยึดสวนลุมพินี โปรโมต แพกเกจท่องเที่ยว 20 เส้นทาง อาหารถิ่นเมนูของแต่ละชุมชนหนึ่งเดียวในเมืองไทย กิจกรรม D.I.Y.จากใต้ทะเลสู่พื้นราบ ซั้งเชือกบ้านปลา-อีแปะบ้านหอย-มะโหด บ้านตะเคียนเตี้ย พบกับ More Fun Café จะฟินขนาดไหนต้องแวะมาที่โซน ททท.ภาคตะวันออก ได้ทุกวัน แล้วมาลุ้นรับ “ริชแบนด์” และของรางวัลเพียบ

“วิบูลย์ นิมิตวานิช” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า

วางกลยุทธ์ขับเคลื่อนการตลาดท่องเที่ยวต้อนรับศักราชใหม่ปี 2562 ตั้งเป้าชูแคมเปญ More Fun การท่องเที่ยวแสนสนุกโดยใช้กิจกรรมธรรมดาทำเป็นเรื่องเล่นแสนสนุกมาเติมสีสันให้ชีวิตในพื้นที่ที่ภูมิภาคภาคตะวันออกดูแล 9 จังหวัด ซึ่งมีพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเล ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด จะสุขสันต์ด้วยธีมทะเล

เริ่มจาก “พัทยา ชลบุรี”  มีทะเลสวยงาม ความหรูหราการล่องเรือยอร์ช สนุกสนาน ขณะเดียวกันก็มีกิจกรรมใหม่ ๆ การเล่นเรือใบ เก็บไข่ ทำสวนครัว เลี้ยงมา ที่อลาคัมปาณ หรือผู้ใหญ่ก็สามารถไปเรียนรู้การชงชาอย่างเข้าถึงการลิ้มรสอย่างได้อารมณ์

“ระยอง” เป็นจังหวัดที่มีบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับผืนป่าติดทะเลอุดมสมบูรณ์ เช่น ป่าวังจันทน์ ปตท.ได้นำองค์ความรู้กว่า 20 ปีจากการปลูกป่าทั่วประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมดอกไม้สวยงาม

“จันทบุรี” เป็นเมืองเต็มไปด้วยความสนุกสนานกับทั้งเรื่อง การกิน วิถีชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนขนมแปลก ตลาดใหม่ ชื่อตลาดทุบหม้อ มีวัดพลับ บริเวณบางกะจะเป็นแหล่งร่อนพลอยแหวน เพชร

เมื่อขุดจากชั้นหินแล้วมาร่อนล้างน้ำจะได้พลอย ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกเพียงจ่ายแค่คนละ 100 บาท ก็สามารถลุ้นรับพลอยจากการลงไปร่อนด้วยตนเอง แต่จะได้พลอยขนาดเม็ดเล็กหรือใหญ่ก็ต้องได้ทุกครั้ง

รวมทั้งมีตลาดน้องใหม่ เพิ่มขึ้นมาอีกแห่ง ต่างจากเดิมนักท่องเที่ยวมักนิยมไปโบสถ์คริสต์ ตอนนี้มีตลาดหลังวัดโรมัน พบกับเมนูอาหารถิ่นหมูอบโอ่ง ซึ่งเป็นหมูกรอบของคุณตาคุณยายทำจากสูตรพิเศษเสิร์ฟจนถึงมื้อเที่ยงในแต่ละ ด้วยบริเวณตลาดแห่งนี้เป็นชุมชนชาวญวนก็จะมีขนมโบราณให้ชิม อาทิ ขนมโบ๋ ขนมต่าง ๆ มาจำหน่าย และบันเชฟ คล้ายขนมโก๋ มีกลิ่นหอม

โดยเฉพาะใน “อำเภอขลุง” มี “ตลาดตะปอน” ซึ่งเกิดขึ้นจากชาวบ้านได้นำผลผลิตมาแลกเปลี่ยนการค้าขายระหว่างกัน

“ตราด” คือจังหวัดที่ต้องไปท่องเที่ยว ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว มีสะพานวัดใจ เมื่อไปถึงนักท่องเที่ยวจะสามารถข้ามไปอีกฝั่งได้หรือไม่ แล้วยังมีกิจกรรมสานงอบ อาหารการกิน ไฮไลต์คือก๋วยเตี๋ยวข้าวเกรียบฮาน่า ส่วนที่ชุมชนแหลมยายม่อม มีสปาทรายดำ และในท่าระแนะ สามารถล่องเรือไปดูป่าโกงกาง หากน้ำลดสามารถเดินเล่นได้เลย โดยสามารถนำลูกตะบูนมาโยนเล่นเป็นโบลิ่งได้

ขณะเดียวกันตราดมี 2 ส่วน อีกส่วนอยู่ในอำเภอบ้านคลองใหญ่ มีชุมชนชวนน่ารักๆ อยู่ด้วย

วิธีการท่องเที่ยวจังหวัดตราด แนะนำให้แวะ “พิพิธภัณฑ์เมืองตราด” ได้จัดทำข้อมูลเรียบเรียงไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้ก่อนจะเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยว เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์อยู่แล้ว

ข้ามมายังฝั่งใกล้กรุงเทพฯ อีก 3 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานในสไตล์ More Fun ได้เช่นกัน

เริ่มจาก “นครนายก” บริเวณแหล่งท่องเที่ยวในโรงเรียนนายร้อย จปร.มีสถานีวัดใจนักท่องเที่ยวในการกระโดดหอแล้วรับปีกเป็นผู้กล้าไปด้วย หรือจะขับรถ ATV ท่องเที่ยวเชิงผจญภัยกลางธรรมชาติ ล่องแก่งต่าง ๆ ก็สามารถทำได้ตามความชอบ รวมถึงยังมีเขื่อนขุนด่านปราการชล แหล่งศึกษาเรียนรู้โครงการพระราชดำริ

“ปราจีนบุรี” เป็นอีกพื้นที่ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ “ภูมิภูเบศร์” เป็นสวนสมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพ อยู่ในเครือข่ายของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ ที่นี่จะมีหมอพลอย สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งยกเรือนหมอจากสี่พระยาไปตั้งไว้ เป็นเสน่ห์ดึงดูดความสนใจ

โดยมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวร่วมทำ D.I.Y.ยาดมสมุนไพร สำหรับไฮไลต์อีกกิจกรรมการดองยา กล้วยดองน้ำผึ้งจนกลายเป็นไวน์ผลไม้ แถมมีสรรพคุณรักษาโรคได้ด้วย ซึ่งเป็นเรียนรู้สมุนไพรไทยมีคุณประโยชน์มากมายในชีวิตประจำวัน

ขณะที่ “สระแก้ว” แนะนำให้ไปชมปราสาทสด็อกก๊อกธม สวยงามมาก ส่วนในเมืองก็จะมีร้านกาแฟชิค ๆ เก๋ ๆ รวมทั้งในบริเวณตัวเมืองมีไฮไลต์โรงเรียนควายกาสรกสิวิทย์ เปิดสอนควายซึ่งปัจจุบันไถนาไม่เป็นแล้วต้องเข้ามายังโรงเรียนแห่งนี้

ภายในโรงเรียนมีเครื่องดื่มขึ้นชื่อต้องชิม 2 เมนู คือ ควายคะนอง กับควายเผือก ประการสำคัญอาหารอร่อย นอกจากนี้สระแก้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง ตลาดโรงเกลือ ชุมชนละลุ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปดูยุคหินโปร่งกัน

ข้ามมาที่ “ฉะเชิงเทรา” โดดเด่นมาก คือ ไหว้พระ หลวงพ่อโสธร หรือจะไปวัด เล่งฮกยี่ เป็นส่วนท้องมังกร โดยมีความเชื่อมโยงกับวัดเล่งเน่ยยี่ ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นส่วนของหัวมังกร และวัดเล่งฮั่วยี่-วัดมังกรบุปผาราม เป็นท้ายมังกร อยู่ในอำเภอขลุง จันทบุรี ในฉะเชิงเทรายังมีหลวงพ่อโต และมีองค์เทพ เช่น พระพิฆเนศซึ่งเป็นเทพแห่งความสำเร็จ มีทั้งปรางค์ที่เป็น องค์ยืน องค์นั่งเสวยสุข อยู่ในวัดสมาน อำเภอบางคล้า ไว้ให้สักการะ

ในตัวเมืองฉะเชิงเทรามีจุดขายการท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นชื่อ คือ สวนมะม่วง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้ เขียวเสวย และพันธุ์ล่าสุดคือมะม่วงแรดหารับประทานได้ยากมาก รสกลมกล่อม 3 รส เปรี้ยว หวาน มัน ขณะเดียวกันก็จะยังมีบริการล่องเรือท่องเที่ยวแม่น้ำบางปะกง

“สมุทรปราการ” เป็นอีกจังหวัดที่มากด้วยเสน่ห์ใกล้กรุง ที่บ้านสาขลา ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ มีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องการทำเมนูอาหารกุ้งเหยียด ชิมเสร็จก็ไปเดินชมรอบวัดสาขลา มีองค์เทพสวยงาม โดยเฉพาะพระพิฆเนศหลายปาง นับเป็นศิลปะสวยงามมาก

จากนั้นข้ามมายัง “ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง” ชุมชนอาหารอร่อยมีอาหารถิ่นทั้งคาวหวานให้เลือกรับประทาน บริเวณใกล้ ๆ กันยังมี “คลองลัดโพธิ์” คลองช่วยในการระบายน้ำจากภาคเหนือสู่อ่าวไทย ลักษณะเด่นคือประตูหากชันน้อยจะปล่อยน้ำน้อยและชันมากจะปล่อยน้ำได้มาก

ทั้งหมดเป็นเสน่ห์ความสนุกสนานกับการท่องเที่ยวภาคตะวันออก 9 จังหวัด ซึ่งนักท่องเที่ยวจะไม่ลืมความน่าเบื่อไปได้เลย เพราะแต่ละจังหวัดทุกเส้นทางจะได้รับอรรถรสความสนุกครบทุกรูปแบบ ทั้งสนุกกับการท่องเที่ยว การกิน ความท้าทายผจญภัยในรูปแบบต่าง ๆ

นับจากนี้ไปอีก 9 เดือนข้างหน้า มกราคม-กันยายน 2562 รับประกันเที่ยวภาคตะวันออก สนุกทุกจังหวัด

และเตรียมยกจุดขายของการท่องเที่ยวภาคตะวันออกทั้ง 9 จังหวัด มาให้นักท่องเที่ยวได้ชิมลางชมได้ทุกเรื่องในงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562” ซึ่ง ททท.ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน จัดมหกรรมความสนุกขึ้นใจกลางกรุง ณ สวนลุมพินี แบบครบวงจร ตลอด 5 วัน ระหว่างวันที่ 23-27 มกราคม 2562

ในบริเวณพื้นที่โซน ททท.ภาคตะวันออก จะยกวิถีชุมชน เมืองหลัก เมืองรอง มานำเสนอจุดขายการท่องเที่ยวเด่น ๆ ทั้งเรื่อง กิจกรรมสาธิต เช่น ชุมชนตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี จะมาโชว์การทำอาหารถิ่นขึ้นชื่อเมนู “ไก่กะลา” กิจกรรมถ่ายภาพของกลุ่ม Street Art จันทบูร จันทบุรี หรือเมนูการทำข้าวเกรียบยาหน้าของชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด หรือในระยอง จะโชว์การทำซั้งเชือกซึ่งเป็นกิจกรรมสร้างบ้านให้ปลา ส่วนใหญ่ทางระยอง พัทยา ชลบุรี จะนิยมรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนร่วมทำซั้งเชือกเพื่อให้ปลาได้วางไข่ขยายพันธุ์ให้ได้รับประทานจำนวนมาก ซึ่งจะต้องใช้ความอดทนคลี่เชือกก่อนจะทำซั้งแต่ละเส้น ทางด้าน “อ่าวคุ้งกะเบน” เตรียมนำเสนอกิจกรรมการทำอีเปะหย่อนลงไปในทะเลเป็นการสร้างบ้านให้หอยได้ขยายพันธุ์ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมี “ซุ้มโอท็อป” 9 จังหวัด “ซุ้มอาหาร” เด่นต่าง ๆ มานำเสนอถึงความมีชื่อเสียงเรื่องผลไม้ภาคตะวันออกขึ้นชื่อทั้ง มะม่วง สับปะรด สละ มะพร้าว เมล่อน และอาหารคาว ก็มี กุ้งแม่น้ำเผา หอยนางรมของฟาร์มลุงทมป้าหลุย ข้าวคลุกพริกเกลือ ก๋วยเตี๋ยวกั้ง หอยจ๊อ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ กุ้งเหยียด รวมทั้งอาหารทะเลอื่น ๆ โซนเครื่องจักรสาน และโซน “จิวเวอรี่ จันทบุรี” แหล่งหุงพลอยทำให้สีของพลอยมีความสวยงามแตกต่างกัน สามารถเจียระไนแล้วติดบนตัวเรือนเครื่องประดับได้

ไฮไลต์ภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562 ตลาดในประเทศทั้ง 5 ภูมิภาค ได้จัดทำการนำเสนอขายท่องเที่ยว 90 เส้นทาง สำหรับ “ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก” มีเส้นทางท่องเที่ยวตัวอย่าง เช่น ตราด More Fun & Fin ชวนเที่ยวพื้นราบ เรียนรู้พิพิธภัณฑ์เมืองตราด ก่อนข้ามไปเที่ยวเกาะกูด สนุกสนานกับการดำน้ำ และชมบ้านน้ำเชี่ยว (ตราด) ศูนย์รวมชุมชน 2 ศาสนา พุทธ มุสลิม ใน 3 วัฒนธรรม ไทย จีน อิสลาม จากนั้นก็ไปชิมข้าวเกียบยาหน้ารสชาติไม่เหมือนใคร

ทางด้าน “จันทบุรี” นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยว “กิน เที่ยว ช็อป เช็ด” คำว่า เช็ด หมายถึงต้องกินให้หมด เป็นพื้นที่ใหม่ เที่ยวชุมชนเกษตรออร์แกนิกนั่งซาเล้งชมสวนต่าง ๆ ตามฤดูกาล เช่นหน้าทุเรียน เงาะ มังคุด และการเลี้ยงชันรงค์เป็นผึ้งพันธุ์ตัวเล็กเลี้ยงในแบบเฉพาะเป็นตัวผสมเกสรตามสวนผลไม้ สามารถชมชิมความหอมหวานน้ำผึ้งชันรงค์ ที่นี่จะมีลักษณะของ Chef Table โดยชาวบ้านจะทำอาหารกลางสวนชวนชิมมื้อกลางวันกลางสวนผลไม้ และแวะชมตลาดต่าง ๆ อาทิ ตลาดทุบหม้อ มีเมนูขาดไม่ได้ คือก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้งผัดของยายลั้ง จะมาปรากฎตัวปรุงเมนูอาหารถิ่นให้นักท่องเที่ยวได้ชิมในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย และการทำ D.I.Y.ไปหาพลอยเมืองจันทบุรี

หรือจะแวะไปดูกรรมวิธีของลุงทมป้าหลุยที่เปิดฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมอย่างไรให้กลายเป็น “หอยนางรมยักษ์” เพื่อการเรียนรู้วิถีชาวประมงที่ดำลงใต้ทะเลนำหอยสด ๆ มาให้ชิมถึงในกรุง สนนราคาขายเพียงตัวละ 150 บาท แตกต่างจากกรุงเทพขายราคาตัวละ 300 บาทขึ้นไป

นอกจากนี้ยังมีการแสดงความสนุกสนาน นำเสนอในรูปแบบ “สวนสนุก” และอีกไฮไลต์คืออยากให้มาสัมผัสกับ “More Fun Cafe” มิใช่ร้านกาแฟแต่เป็นร้านขายน้ำผลไม้ปั่น มะพร้าว สละ สับปะรด มะปรี๊ดหรือน้ำส้มจี๊ดรสชาติเปรี้ยวโดนใจ ผสมกับกาแฟ ทำเค้กมะปรี๊ด ซึ่งเป็นอีกเสน่ห์ แต่ละร้านจะมีสูตรผสมแตกต่างกันไป เมื่อดื่มแล้วจะตื่นตัว สดชื่นทันที

ขณะเดียวกันก็มีโซนให้ปีนผา หรือเด็ก ๆ ที่อยากรู้ว่ามีฝีมือทำพิซซ่าด้วยตนเองก็ได้ที่ มิมูราห์ฟาร์ม เปิดให้ปรุงหน้าพิซซ่า นำไปอบเตาถ่าน สุกแล้วรับประทานได้เลย

ทุกกิจกรรมที่นำมาเสนอในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย สามารถแวะมาร่วมกิจกรรม D.I.Y.ได้ตลอด แต่ขอแนะนำให้แวะไปก่อนเที่ยง เพราะคิวอาจจะแน่นมาก

พบกับความสนุกสนานของ เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ในโซน ภูมิภาคภาคตะวันออก ได้ตลอดงาน ระหว่างวันที่ 23-27 มกราคม 2562

ผอ.วิบูลย์ กล่าวว่า จะชวนไปทำกิจกรรมที่สนุกสนานและได้ประโยชน์กับการท่องเที่ยวเชิงเพื่อสู่สังคม CSR การทำซั้งเชือกสร้างบ้านปลา ทำอีเปะสร้างบ้านหอย ในชุมชนจะเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ให้ หรือจะไปตัดพวงมะโหดที่บ้านตะเคียนเตี้ย ชลบุรี ก็ได้

ปี 2562 ตลอดงาน ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก จะรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชมงานร่วมโครงการ “ลด โลก เลอะ” ลดการใช้พลาสติก โฟม แล้วหันมาใช้ภาชนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบอกน้ำ ถุงผ้า ถุงกระดาษ ปิ่นโต หากต้องการสนุกกับการลด โลก เลอะ ก็ร่วมสนุกได้เพื่อลุ้นรับอุปกรณ์ดังกล่าวไปใช้ในงาน ซึ่งในโซน ททท.ภาคตะวันออก มีความพิเศษในการเตรียม “ริชแบนด์” สีสันสดใสไว้ให้โดยบรรจุข้อมูลการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกทั้งหมด

หลังจากนักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชมภูมิภาคภาคตะวันออก ทั้ง 9 จังหวัด ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เกิดไอเดียนำไปวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออกต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2562

ขอบคุณข้อมูลจากเพจ: Penroong Yaisamsaen