ตราด เมืองท่องเที่ยวริมทะเลแห่งชายฝั่งภาคตะวันออก ที่อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และแดนสวรรค์ของคนชอบผลไม้นานาพันธุ์ ทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง ฯลฯ ซึ่งในช่วงนี้กำลังออกผลดก และมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยว ชิม ชอป กันเป็นจำนวนมาก
สำหรับเพื่อนๆ ที่มีแพลนไปเที่ยวตราดในช่วงนี้ แล้วอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากการเที่ยวสวนผลไม้ ไปชมวัดวาอาราม แวะชอปตลาดโบราณ ชุมชนน่ารัก นั่งเล่นในคาเฟ่สุดคูล วันนี้เราคัดสรรที่เที่ยวสวยๆ มาแนะนำเพื่อนๆ ให้ลองตามไปเที่ยวและเก็บเกี่ยวความประทับใจแบบไม่มีเหงาเลยสักวันเดียว
1. ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว
แหล่งท่องเที่ยวชุมชนของจ.ตราด ที่งดงามด้วยวิถีชีวิตผสมผสานระหว่างพุทธและมุสลิมอย่างกลมกลืน
โดยกิจกรรมที่น่าสนใจเมื่อมาเยือนชุมชนแห่งนี้ก็มีให้ทำมากมาย ตั้งแต่การล่องเรือชมธรรมชาติป่าชายเลน เดินชมธรรมชาติระบบนิเวศป่าชายเลน ขึ้นหอดูนก พาไปตกปลา ไดหมึก ดำน้ำดูปะการัง พักโฮมสเตย์ชาวบ้าน ชมแหล่งท่องเที่ยวทั้งวัดน้ำเชี่ยว และมัสยิดอัลกุบรอ
รวมทั้งสะพานข้ามคลอง ที่กล่าวว่าเป็น ดาวตาแห่งน้ำเชี่ยว เมื่อถึงเวลาที่น้ำขึ้นจนสะท้อนเงาสะพานแห่งนี้ได้เต็มวง ขาดไม่ได้คือทั้งชมและช้อปของฝากที่มีชื่อเสียงมานาน นั่นคือ งอบน้ำเชี่ยว และตังเมกรอบ
ที่ตั้ง : ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน
โทร. : 061 660 0955
2. ชุมชนบ้านแหลมมะขาม
เป็นหมู่บ้านบนแหลมที่ยื่นไปในทะเล มีความเป็นมากว่า 100 ปี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทั้งป่าชายเลนและสัตว์ทะเล รวมทั้งวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าศึกษา โดยมีกิจกรรมท่องเที่ยวภายในชุมชน
ไม่ว่าจะแวะจุดท่องเที่ยวสำคัญอย่าง เจ้าพ่อต้นมะขามโพรง ศูนย์เรียนรู้ตามรอยเสด็จฯ พระพุทธเจ้าหลวง รวมทั้งวัดแหลมมะขาม ที่มี “โต๊ะวลีย์” ศาสนสถานที่สำคัญของชาวมุสลิม ตั้งอยู่ภายใน
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทั้งล่องเรือชมป่าชายเลน เย็บงอบ สานคุ้ม งมหอยปากเป็ด ให้ลองทำกันสนุกๆ ด้วย
ที่ตั้ง : อ.แหลมงอบ จ.ตราด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน
โทร. : 098 860 2914
3. ชุมชนบ้านท่าระแนะ
ชมความอัศจรรย์ของป่าชายเลนที่มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี บนเส้นทางล่องเรือเข้าไปในคลองซึ่งจะผ่านป่าถึง 3 ประเภท คือ ป่าโกงกาง ป่าจาก และป่าตะบูน ที่เรียงรายด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่และแน่นขนัดราวกับหลุดเข้าไปในโลกดึกดำบรรพ์ แล้วหยุดให้เดินชม ลานตะบูน ที่เต็มไปด้วยรากไม้แผ่ขยายไปทั่วบริเวณจนเกิดเป็นภาพที่แปลกตา
นอกจากนี้ทางชุมชนยังมีกิจกรรมอื่นๆ ด้วย เช่น การนวดแบบ สปาเจ๊ก เพื่อสืบสานวัฒนธรรมชนพื้นเมืองตราดเชื้อสายจีน รวมทั้ง จิบชาร้อยรู อยู่ร้อยปี ซึ่งเป็นสมุนไพรท้องถิ่นที่ชาวบ้านเชื่อว่าช่วยรักษาโรคมะเร็ง รวมทั้งร่วมปลูกหัวร้อยรูเพื่อเป็นการอนุรักษ์สมุนไพรท้องถิ่นอีกด้วย
ที่ตั้ง : ต.หนองคันทรง อ.เมืองตราด จ.ตราด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน
โทร. : 081 161 6694
4. ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน บ้านแหลมงอบ
มาผ่อนคลายกับกิจกรรมหมกเท้าในทรายดำหรือเดินเล่นบนหาดทรายดำ หนึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่พบได้เพียง 5 แห่งทั่วโลกเท่านั้น คือที่ไต้หวัน มาเลเซีย ฮาวาย แคลิฟอร์เนีย และที่จังหวัดตราด หาดทรายดำมีชื่อทางการว่า “ไลโมไนต์” (Limonite) แร่ที่เกิดจากการผุกร่อนของธาตุเหล็กผสมกับเปลือกหอย ซึ่งทางการแพทย์ระบุว่าไม่มีผลทางการรักษาโรค แต่ชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะมีแร่ธาตุอื่นๆ ปนอยู่ที่สามารถช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น จึงส่งผลดีต่อสุขภาพเท้า
เสร็จแล้วไปเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนระยะทาง 1 กิโลเมตร ชมหอยขี้ค้อน ปลาตีน ปูแสม ปูก้ามดาบ นกประจำถิ่น ตลอดจนพันธุ์ไม้ต่างๆ ในป่าชายเลน แล้วไปสิ้นสุดยังหาดทรายดำ ใครอยากมาสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ต้องสอบถามเวลาน้ำขึ้นน้ำลงก่อนนะเพื่อจะได้ไม่เสียเที่ยว
5. วัดบุปผาราม
วัดดังแห่งเมืองตราดอย่าง วัดบุปผาราม หรือชื่อเดิมคือ วัดปลายคลอง วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สมัยกรุงศรีอยุธยา ตัวที่ตั้งของวัดอยู่เนินสูงสามารถมองเห็นวิวและความสวยงามของบริเวณโดยรอบได้อย่างชัดเจน บรรยากาศของวัดก็ร่มรื่น สวยงามสะอาดสบายตาสมกับเป็นอารามแห่งสวนดอกไม้ชื่อของวัดได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งความสำคัญของวัดแห่งนี้นอกจากจะใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจแล้วยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บโบราณวัตถุที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์มากมาย ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจดังนี้ พิพิธภัณฑ์วัดบุปผาราม ที่มีพระบรมสารีริกธาตุ, พระพุทธรูปทองบุเงิน พระพุทธรูปปางต่าง ๆ
รวมทั้งเครื่องถ้วยจีน เครื่องถ้วยยุโรป กลองมโหระทึก ต่อมาคือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ภายในพระอุโบสถและวิหารพระพุทธไสยาสน์, หมู่กุฏิเล็กทรงไทย, หอสวดมนต์, เจดีย์และวิหารที่ยังคงความสวยงามตลอดมาจนถึงปัจจุบัน
ที่ตั้ง : ม.3 บ.ปลายคลอง ถ.พัฒนาการปลายคลอง ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด
เปิดปิดเวลา: 08.00-17.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3951 2636
6. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองตราด
ก่อนเที่ยวตราด แวะมาทำความรู้จักเมืองตราดแบบรอบด้านที่ใจกลางเมืองตราดกันก่อน โดยอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นศาลากลางจังหวัดหลังเดิมที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 ลักษณะเป็นเรือนไม้ยกใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา มีฝั่งปีกซ้ายปีกขวา
ส่วนภายในแบ่งเป็นห้องจัดแสดง 6 ห้อง มีตั้งแต่ห้องว่าด้วยภูมิศาสตร์และทรัพยากร กลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งไทย จีน เขมร ญวน และชอง ประวัติศาสตร์ผ่านยุคสมัยต่างๆ ห้องบันทึกเหตุการณ์ช่วงรัชกาลที่ 5 ซึ่งถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเมืองตราด โดยเสด็จประพาสเมืองตราดถึง 12 ครั้ง ทั้งการพระราชทานพระแสงราชศาสตราประจำเมือง สงครามกับฝรั่งเศส ห้องจำลองเหตุการณ์ยุทธนาวีเกาะช้าง ก่อนจะนำสู่ห้องจำลองบรรยากาศตลาดเก่าเมืองตราด
รวมทั้งอาหารการกินที่เป็นเอกลักษณ์ หากสนใจเข้าชมควรติดต่อล่วงหน้า จะมีมัคคุเทศน์ท้องถิ่นมาพานำชมและให้ข้อมูลด้วย
ที่ตั้ง : ถ.สันติสุข ต.บางพระ อ.เมืองตราด จ.ตราด
เวลาเปิด-ปิด : 09:00-16:00 น. ปิดวันจันทร์
โทร. : 086 450 5263
7.วัดโยธานิมิต
หรือวัดโบสถ์ เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองตราด สร้างขึ้นเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมาทรงรวบรวมไพร่พลที่เมือง ตราด เพื่อกอบกู้อิสรภาพของกรุงศรีอยุธยา แต่มาแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อครั้งเจ้าพระยาบดินทร์เดชาเป็นแม่ทัพมาตั้งมั่นเตรียมรับศึกญวน ชาวตราดนิยมเรียกกันว่า วัดโบสถ์ เพราะมีพระอุโบสถสวยงามจนเป็นที่เล่าลือ เคยเป็นสถานที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยามาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 3
สิ่งสำคัญภายในวัดคือ วิหารโยธานิมิตร หรือ พระอุโบสถเก่าที่มีจิตรกรรมเล่าเรื่อง พระเวสสันดรชาดก ปัจจุบันเป็นสถานที่เก็บโบราณวัตถุ เช่น รอยพระพุทธบาท ตู้ลายรดน้ำ นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์ สวนไทร และอุทยานการศึกษา
ที่ตั้ง: ถ.เทศบาล 4 อ.เมือง จ.ตราด
8. สวนไพฑูรย์
คุ้มสุดคุ้มถ้ามาเที่ยวสวนผลไม้ของคุณไพฑูรย์ วานิชศรี เพราะในซีซั่นผลไม้นี้ นอกจากจะมีบุฟเฟต์ผลไม้ให้กินกันไม่อั้นทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด สละ เนื้อดีรสชาติอร่อยในราคาสุดคุ้ม
คุณไพฑูรย์ยังเป็นเกษตรกรดีเด่น ผู้บุกเบิกการปลูกทุเรียนในโรงเรือนจนสามารถให้ผลผลิตตลอดทั้งปี ทุกวันนี้จึงเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดตราดและจันทบุรี รวมถึงเปิดสวนของตนเองเป็นแหล่งความรู้แก่ผู้ที่สนใจศึกษาดูงานเรื่องการปลูกทุเรียนที่ได้คุณภาพด้วย
ที่ตั้ง : สวนผลไม้ไพฑูรย์อยู่ที่ต.ทุ่งนนทรี อ.เขาสมิง จ.ตราด
โทร.086-006-0132
9. สวนสละสมโภชน์
อีกหนึ่งสวนผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดตราด ซึ่งเจ้าของสวนใส่ใจดูแลและจริงจังกับการปลูกสละพันธุ์สุมาลีมานานหลายสิบปี จนทำให้ได้สละสุมาลีที่รสชาติหวานหอมแบบที่ใครได้ชิมเป็นต้องติดใจ และยังให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี
ถ้าจะให้ฟินก็ต้องมากินถึงสวน จะได้ชิมได้ช้อปสละสดๆ ตัดจากต้นที่ทางสวนคัดคุณภาพทุกลูกก่อนแพ็กกล่องขาย มีสละสดแบบแกะเปลือกพร้อมทาน และสละลอยแก้วที่ฟรีซไว้เย็นเจี๊ยบเป็นเกล็ดน้ำแข็ง กินแล้วชื่นใจคลายร้อนได้ดีทีเดียว
ที่ตั้ง : สวนสละสมโภชน์ ต.บ้านท้ายวัง อ.เมือง จ.ตราด เปิดสวนให้ชมฟรี
โทร. 08-1438 -2015
10. ร้าน Check In Trat (เช็คอิน ตราด)
ฟาร์มเอาต์เล็ตที่มีทั้งร้านกาแฟ ร้านข้าว และของฝากเมืองตราดในที่เดียว แวะมานั่งชิลล์ๆ คลายร้อนกับกาแฟตราดรสเยี่ยม ซึ่งใช้เมล็ดกาแฟที่ปลูกในพื้นที่ตราด นำมาคั่วเองบดเอง ถ้าหิวก็มีร้านข้าวแกงแสนตุ้งกับเมนูเด็ดประเภทแกงเผ็ดที่ถึงเครื่องแกงของเด็ดเมืองตราด
ปิดท้ายด้วยโซนของฝากที่รวบรวมเอาของดีเมืองตราดมาไว้เต็มเชลฟ์ ทั้งของใช้ของกิน เช่น น้ำพริกไข่ปู ปลาทูต้มเค็ม น้ำปลาดี กะปิอร่อย สารพันอาหารทะเลแห้ง ตลอดจนผลไม้แปรรูปต่างๆ มีครบทุกความเป็นตราดจริงๆ
ที่ตั้ง : 198 หมู่ 5 ถ.สุขุมวิท ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด
เปิดทุกวัน 07.00-17.00 น. ร้านข้าวแกงแสนตุ้งปิด 15.00 น. โซนของฝากปิด 18.00 น.
โทร. 092-278-8789
11. อนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง
มีอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผันพระพักตร์ไปยังบริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง ด้านในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงข้อมูลประวัติศาสตร์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประวัติการสู้รบของกองทัพเรือไทยกับกองกำลังเรือรบของฝรั่งเศส
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2484 เป็นวันที่มีการรบทางเรือระหว่างไทยกับฝรั่งเศส อันนับเป็นยุทธนาวีครั้งสำคัญยิ่งของกองทัพเรือไทยเท่าที่ได้เคยมีมาในอดีต กองทัพเรือจึงได้ถือเอาวันที่ 17 มกราคม ของทุกปี เป็นวันสดุดีวีรชนกองทัพเรือ เพื่อแสดงความเคารพและรำลึกถึงวีรกรรมของทหารหาญแห่งราชนาวีไทยทั้ง 36 นาย ที่ได้สละชีพเพื่อรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติไทยเอาไว้จวบจนปัจจุบัน ในครั้งนั้น ฝรั่งเศสส่งกำลังเข้ารุกล้ำน่านน้ำไทยบริเวณเกาะช้าง รวมทั้งสิ้น 7 ลำ เฉพาะเรือลามอตปิเกต์ลำเดียวก็มีระวางขับน้ำถึง 9,350 ตัน
นอกจากนั้นยังมีเรือสลุตอีก 2 ลำ และเรือปืนอีก 4 ลำ ขณะที่กองทัพไทย มีกำลังรบเพียง 3 ลำ คือ เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงสงขลา และเรือหลวงชลบุรี เราจึงเสียเปรียบในด้านกำลังรบอย่างไม่อาจจะเทียบกันได้ แต่บรรพบุรุษทหารเรือของเรายังคงมีขวัญและกำลังใจที่ดี และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญตราบจนเรือหลวงของไทยทั้ง 3 ลำ ต้องจมลงสู่อ้อมกอดแห่งท้องทะเลตราดพร้อมกับนายทหารและทหารประจำเรือที่เสียชีวิตไปถึง 36 นาย
อนุสรณ์สถานยุทธนาวีฯ ตั้งอยู่บริเวณชายทะเลแหลมงอบ เป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หันพระพักตร์ไปยังบริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง รอบ ๆ บริเวณและอาคารพิพิธภัณฑ์ตกแต่งคล้ายเรือรบ ด้านในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้อมูลประวัติศาสตร์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประวัติการสู้รบของกองทัพเรือไทยกับกองกำลังเรือรบของฝรั่งเศส
ในวันที่ 17 มกราคมของทุกปี จังหวัดตราดจะจัดงานวันวีรกรรมทหารเรือไทยในยุทธนาวีที่เกาะช้าง เพื่อระลึกถึงการทำยุทธนาวีของกองทัพเรือไทย กิจกรรมเด่นภายในงาน ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และพิธีลอยมาลาบริเวณเกาะลิ่มโดยเรือรบของกองทัพเรือ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงเรือไปร่วมพิธีได้ สอบถามข้อมูล ที่ว่าการอำเภอ
ที่ตั้ง: ถนนสุขาภิบาล 3 เกาะช้าง, ตราด
เปิดปิดเวลา: ทุกวัน 08:00 - 16:00 น.
12.จุดชมวิวแหลมงอบ
ประภาคารแหลมงอบ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่พลาดไม่ได้สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปเซลฟี่กับตัวประภาคารที่สูงโดดเด่นสัญลักษณ์สุดแผ่นดินตะวันออก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับถ่ายรูปเก็บความทรงจำสวย ๆ ส่วนด้านหลังก็จะเป็นวิวสะพานท่าเรือทอดยาวเข้าไปในทะเล ซึ่งเดิมที่นี่เคยคึกคักเป็นอย่างมากเพราะเป็นท่าเทียบเรือหลักที่รับนักท่องเที่ยวเดินทางไปต่อยังเกาะช้าง เกาะหมากและเกาะกระดาด
รวมไปถึงเกาะน้อยใหญ่อื่น ๆ อีกมากมาย แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปใช้ท่าเทียบเรืออื่น ๆ มากขึ้น แต่ก็ยังคงมีเรือที่ให้บริการข้ามฝั่ง จำหน่ายแพ็คเกจท่องเที่ยวอยู่มากมายให้เพื่อน ๆ ที่แวะมาถ่ายรูปสวย ๆ กับตัวประภาคารได้เลือก เดินทางไปเที่ยวต่อได้อย่างสะดวกสบายเลย
ที่ตั้ง : ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด
13. น้ำตกธารมะยม
นอกจากทะเลสวยใสน่าโต้คลื่นแล้ว ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเล่นน้ำตกบ้าง บนเกาะช้างก็มีน้ำตกหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ น้ำตกธารมะยมอยู่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จากจุดจอดรถต้องเดินเท้ากันต่อประมาณ 500 เมตร บางช่วงต้องข้ามน้ำและปีนหินกันเล็กน้อยจึงต้องระมัดระวัง
ธารมะยมเป็นน้ำตกสวยขนาด 4 ชั้น โดยชั้นที่ 3 เป็นชั้นที่สวยที่สุด มีธารน้ำตกไหลลัดเลาะผ่านร่องหินแกรนิตสีดำและหน้าผาสูงชันจนเกือบตั้งฉาก รายล้อมด้วยป่าดงดิบ อากาศจึงร่มรื่นเย็นสบาย ซึ่งรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 ตลอดจนสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ก็เคยเสด็จประพาสมายังน้ำตกนี้ โดยมีพระปรมาภิไธยย่อ จปร. และ วปร. สลักอยู่ที่หน้าผาน้ำตกชั้นบนด้วย
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง 23/7 ม.3 อ.เกาะช้าง จ.ตราด
โทร. 039-555-080, 039-555-084
14.ชุมชนสลักคอก เกาะช้าง
อีกหนึ่งสีสันของการมาเที่ยวทะเลเกาะช้างต้องแวะมาที่หมู่บ้านสลักคอก เราจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านที่ยังรักษาอัตลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ โดยชมรมฯ ท่องเที่ยวของหมู่บ้านได้เตรียมกิจกรรมไว้รองรับนักท่องเที่ยว เช่น กิจกรรมพายเรือคายัคล่องไปตามลำคลองธรรมชาติ ศึกษาพรรณไม้ป่าชายเลน
ถ้าใครขี้เกียจพายเองก็เลือกนั่งเรือมาดหรือที่รู้จักกันในชื่อเรือกอนโดลาเกาะช้างก็ได้ มีคนแจวเรือพาชมทิวทัศน์ตั้งแต่ในลำคลองออกมาถึงปากอ่าวสลักคอก
ถ้ามาตอนเย็นก็จะโรแมนติกหน่อย ด้วยการนั่งเรือชมพระอาทิตย์ตกบริเวณปากอ่าวสลักคอกที่ถือเป็นจุดสวยงามที่สุด กินอาหารพื้นบ้านและอาหารทะเลสดๆ พร้อมชมวิถีประมงพื้นบ้านดั้งเดิมที่ยังพายเรือจับสัตว์น้ำโดยอาศัยแสงจันทร์นำทาง จากนั้นไปชมหิ่งห้อย หรือจะร่วมกิจกรรมตกปลาตกหมึกก็สนุกดีเหมือนกัน
สำหรับค่าบริการเรือคายัคและเรือกอนโดลามีหลายราคาตามรูปแบบของกิจกรรม สนใจคลิกดูรายละเอียดและติดต่อที่เฟซบุ๊ก : ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้
ที่ตั้ง: บ้านสลักคอก ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด
โทร. 087-748-9497, 083-115-5677
15.สวนสมโภชน์ เกาะช้าง
‘ทุเรียนเกาะช้าง’ จัดว่าเป็นที่หมายปองของเหล่านักชิมทุเรียนเพราะต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมากินที่นี่เท่านั้น ซึ่งผลวิจัยพบว่ามีวิตามินอีและไอโอดีนสูงกว่าทุเรียนปกติ โดยสวนนี้เป็นสวนหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาชิมผลไม้
รวมไปถึงเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ทางการเกษตร และมีโฮมสเตย์ให้สัมผัสบรรยากาศบ้านสวนชาวเกาะ ผลไม้มีทั้งทุเรียนหมอนทอง ชะนี ก้านยาว พวงมณี รวมไปถึงเงาะ มังคุด ลองกอง ให้เลือกซื้อ แถมรับประกันคุณภาพสวนเกษตรอินทรีย์ด้วยมาตรฐาน GAP และติด QR Code บอกวันที่รับประทานทุเรียนได้ให้อีกด้วย
ที่ตั้ง : อ.เกาะช้าง จ.ตราด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ระหว่างเดือนเมษายน-เดือนมิถุนายน
โทร. : 086 022 6346
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานตราด โทรศัพท์: 039 597 259