ททท.ภูมิภาคตะวันออก และ อบจ. ชลบุรี ผนึกผู้ประกอบการจัดงาน “เที่ยวสบายๆ สไตล์ชลบุรี”

ททท.ภูมิภาคตะวันออก และ อบจ. ชลบุรี ผนึก 26 ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจัด”เที่ยวสบายๆ สไตล์ชลบุรี” ดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชลบุรี พุ่ง 2.5 แสนล้านบาท

นายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และนายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชลบุรี ร่วมแถลงข่าวเดินหน้าจัดแคมเปญ “เที่ยวสบายๆ สไตล์ชลบุรี” จัดหนักแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษลดแลกแจกแถมมากกว่า 50% ในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 50 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2562 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มั่นใจผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ทะลุ 2.5 แสนล้านบาท ในปี 2562

แคมเปญ “เที่ยวสบายๆ สไตล์ชลบุรี”เป็นความร่วมมือระหว่าง อบจ.ชลบุรี เมืองพัทยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา และองค์กรภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวภาคเอกชนของจังหวัดชลบุรี 26 ราย นำเสนอสินค้าและบริการการท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งในส่วนของที่พัก ร้านอาหาร และกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี ในราคาลดพิเศษกว่า 50%

เป็นการมอบส่วนลดครั้งใหญ่สำหรับปีนี้ นำขบวนทัพ จากโรงแรมที่พักชั้นนำ แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และสนามกอล์ฟในภาคตะวันออก มาร่วมแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 50 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2562 ในพื้นที่คูหา “เที่ยวสบาย ๆ สไตล์ชลบุรี” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

“อบจ.ชลบุรี ให้ความสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่สำคัญ เนื่องจากจังหวัดชลบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมการพักผ่อน ความบันเทิงหลากหลาย ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทุกวันตลอดทั้งปี มีการเดินทางที่สะดวก ประหยัดค่าใช้จ่าย คุ้มค่ากับการเดินทาง

และยังสามารถสร้างสรรค์สินค้าการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพออกมาช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากกลุ่มคนไทยที่รักการเดินทาง และกระตุ้นเม็ดเงินด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อีกด้วย” นายวิทยา กล่าว

 

นายวิทยา  กล่าวด้วยว่า ในปีนี้ จังหวัดชลบุรี ตั้งเป้าหมายในการผลักดันให้มีผู้เยี่ยมเยือนเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีเพิ่มมากขึ้น โดยมุ่งเน้นให้มีการขยายระยะเวลาพำนักเฉลี่ย และทำกิจกรรมทางการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัว

โดยคาดว่าในปี 2562 จังหวัดชลบุรีจะมี  ผู้เยี่ยมเยือน (พื้นที่พัทยา เมืองชลบุรี และบางแสน) เพิ่มขึ้นประมาณ 6-7 % เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 หรือคิดเป็น 18 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 260,000 ล้านบาท แบ่งเป็นชาวต่างชาติร้อยละ 60 และคนไทยร้อยละ 40 โดยมีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา รองลงไปเป็นบางแสน และสัตหีบ

สำหรับภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาเที่ยวจังหวัดชลบุรีมากที่สุด ประกอบด้วย จีน รัสเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย เยอรมัน ตะวันออกกลาง อังกฤษ และไต้หวันตามลำดับ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยมีแนวโน้มเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสถานที่พักผ่อนชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ

ปัจจุบันจังหวัดชลบุรีมีความพร้อมในการรองรับการท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยมีที่สถานที่พักมากกว่า 2,000 แห่ง  ห้องพักจำนวน 67,094 ห้อง (จากฐานข้อมูลสำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างสำหรับประเมินอัตราการเข้าพักเฉลี่ย) แหล่งท่องเที่ยวมากกว่า 50 แหล่ง  รวมทั้งมีการขยายตัวของร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

และจากนโยบายของรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ Thailand 4.0 เพื่อใช้เป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ สร้างความ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ด้วยการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Corridor) ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

โดยจังหวัดชลบุรีได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ อาทิ การพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์แห่งที่สาม นโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญ ได้แก่ การศึกษาระบบราง (รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก แอร์พอร์ต เรลลิงก์

ส่วนปัจจุบันและส่วนต่อขยาย และรถไฟฟ้าสาย   สีแดง) เพื่อเชื่อมโยง 3 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา และมีการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกหลัก 3 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3  ท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 และท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ ทั้งยังมีการพัฒนาโครงข่ายรถไฟเชื่อมโยง 3 ท่าเรือ และพัฒนาระบบการจัดการขนส่งแบบบูรณาการทั้งรถไฟและท่าเรือแบบไร้รอยต่อ (Seamless Operation)  ซึ่งเป็นโครงการหลักของ ECC ที่ต้องการยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์การทางเศรษฐกิจระดับโลก

ทั้งนี้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภามีสายการบินต่างๆ เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ โดยสายการบินมีทั้งแบบเที่ยวบินปกติ และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เส้นทางบินภายในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานี อุบลราชธานี ภูเก็ต หาดใหญ่ ขอนแก่น หนานหนิง หนานชาง มาเก๊า มาเลเซีย สิงคโปร์ รัสเซีย

และในขณะนี้ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาฯ ได้เปิดอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ (Terminal 2 ) สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 3 ล้านคนต่อปี ในปี 2562 สายการบิน TUI Airways แบบเช่าเหมาลำของประเทศอังกฤษได้เปิดเส้นทางบินตรงจาก 3 เมืองหลัก ได้แก่ Birmingham, London Gatwick และ Manchester ซึ่งเป็นการเปิดเส้นทางบินแบบ Long-haul จากอังกฤษมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหนึ่งในสนามบินเป้าหมายที่พานักท่องเที่ยวจากอังกฤษเดินทางมาประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว คือ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา

นับว่าเป็นโอกาสดี ที่จะเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวจากประเทศภูมิภาคยุโรป ให้สามารถเดินทางตรงเข้าสู่พัทยา จังหวัดชลบุรีได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น