10 ที่เที่ยวสวยสุดฟิน ขับรถแวะเที่ยวแวะชม ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต

 สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสเดินทางไปภาคตะวันออก หลายคนต้องรู้จัก “ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต” หรือ ถนนชล-จันท์ เส้นทางท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในประเทศไทยอีกหนึ่งที่ได้ชื่อว่า “Scenic Route”

เพราะด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของถนนเลียบชายฝั่งทะเลที่เผยให้เห็นความสวยงามของฝั่งหน้าผาและริมทะเลคั่นกลางด้วยโค้งถนนที่สวยงาม โดยเส้นทาง “ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต” นี้เริ่มต้นจาก อ. สัตหีบ จ.ชลบุรี สิ้นสุดที่ อ. แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี รวมระยะทาง 111 กิโลเมตร

พวกเราคัดสรร 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินของถนเฉลิมบูรพาชลทิต มาเป็นตัวเลือกให้ผู้สนใจลองวางแผนทริปในรูทภาคตะวันออกในแบบฉบับของตัวเองกัน ส่วนจะมีที่ไหนน่าสนใจ ไม่ควรพลาดบ้างตามไปเที่ยว ไปเลือกพร้อม ๆ กันเลยจ้า

1.หาดแม่พิมพ์ จ.ระยอง

ตั้งอยู่ใน อ.แกลง จ.ระยอง อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง 48 กิโลเมตร อีกหนึ่งชายหายที่มีชื่อเสียงในระยอง นอกจากบริเวณชายหาดจะเต็มไปด้วยร้าอาหาร ที่พัก และกิจกรรมทางน้ำให้เลือกเล่นมากมายแล้ว

ไฮไลท์สำคัญของการเดินทางไป ณ หาดแม่พิมพ์ คือ การเดินทางไปสักการะ “ศาลเจ้าแม่พิมพ์” ศาลศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวระยอง แถมยังสามารถเดินขึ้นไปยังวัดที่ตั้งบนยอดเขาสูงเพื่อชมวิวหาดแม่พิมพ์ในมุมสูงได้อีกด้วย

2.ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง

อีกหนึ่งแลนด์มากท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด สำหรับ “ทุ่งโปรงทอง” ถือเป็นไฮไลต์ของการเดินทางท่องเที่ยวปากน้ำประแสร์ ด้วยการเดินทางไปสัมผัสความงามของทุ่งโปรงทอง ในยามเช้าตรู่และยามเย็นเมื่อแสงสีทองของดวงอาทิตย์สาดทอแสงไปยัง ต้นโปรงทั่วท้องทุ่งจนกลายเป็นสีทอง ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “ทุ่งโปรงทอง”

นอกจากจะได้ถ่ายภาพทุ่งโปรงทองสวย ๆ แล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ รวมทั้งสามารถเดินศึกษาธรรมชาติไปตามสะพานไม้ที่พาลัดเลาะเข้าไปในป่าชายเลน อันอุดมสมบูรณ์ และน่าจะเรียกได้ว่าเป็นป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ของภาคตะวันออกอีกด้วย

3.อนุสรณ์เรือรบประแส จ.ระยอง

เรือหลวงประแส ตั้งอยู่บริเวณชายหาดประแสร์ หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง บริเวณหัวโขด เป็นเรือรบหลวงเก่าที่ปลดประจำการจากสงครามเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ที่เป็นอนุสรณ์สถานที่มีประวัติศาตร์สำคัญควรค่าแก่การรำลึกถึงราชนาวีไทย

โดยกองทัพเรือได้ปลดระวางประจำการเรือหลวงประแส ในวันที่ 22 มิถุนายน 2543 โดยทำการเคลื่อนย้ายตัวเรือทั้งลำ มาตั้งเป็นอนุสรณ์เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2546

ปัจจุบัน “เรือหลวงประแส” ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของชาวชุมชนปากน้ำประแส หากใครมาท่องเที่ยวที่ชุมชนปากน้ำประแส สามารถแวะมาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของราชนาวีไทย อนุสรณ์เรือหลวงประแส อีกทั้งบริเวณรอบตัวเรือยังมีการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ ให้สวยงามจนหลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดระยอง

4.สะพานรักษ์แสม

แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งนี้ ไม่เชิงเป็นที่เที่ยวใหม่ เพราะมีน้อยคนจะรู้จัก ซึ่งบริเวณป่าชายเลนแห่งนี้ยังเป็นเขตอนุรักษ์และเพาะพันธุ์สัตว์ มีธนาคารปูแสม ซึ่งเกิดจากการรวมกลุ่มของชาวบ้านเนินทรายหมู่ที่ 2 และสมาชิกเครือข่าย ที่ต้องการจะอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำ

5.จุดชมวิวเนินนางพญา จ.จันทบุรี

จุดชมวิวเนินนางพญา เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของ ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ซึ่งเป็น 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวของ Dream destinations ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณชายหาดคุ้งวิมานตอนใต้ ไปจนถึงเนินเขาเล็ก ๆ

โดยบนจุดชมวิวเนินนางพญา มีการปรับภูมิทัศน์ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ได้ชมทัศนียภาพริมฝั่งที่เป็นเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ ของเนินเขาริมชายฝั่ง และมีบริการลานจอดรถ ด้านหนึ่งสามารถมองเห็นแหลมส่วนที่เป็นปลายด้านหนึ่งของอ่าวคุ้งกระเบนได้

และเมื่อมองลงมายังเบื้องล่างอีกด้านจะมองเห็นถนนเลียบชายหาดที่โค้งเป็นรูปตัวเอสตามไหล่เขา ถือเป็นช่วงถนนที่สวยที่สุดสายหนึ่งในไทยเลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเลนพิเศษสำหรับจักรยาน บริเวณไหล่ทางของถนนทั้งสองฝั่ง ที่ทาสีแดง พร้อมมีสัญลักษณ์เลนจักรยานไว้ให้เห็นอย่างเด่นชัดเอาใจนักปั่นอีกด้วย

6.หาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี

หาดเจ้าหลาว ตั้งอยู่ถัดมาจากหาดแหลมเสด็จ ภายใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี หนึ่งในชายหาดที่เพียบพร้อมไปด้วยทะเลสวยน้ำใสและบรรยากาศเงียบสงบ

นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมานั่งชมวิวทิวทัศน์ผ่อนคลายความเครียดท่ามกลางความร่มรื่นใต้ต้นมะพร้าวน้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่ข้างทาง ซึ่งการเดินเล่นรับลมเย็น ๆ แถมวิวของที่นี่ยังทอดยาวไปถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน

นอกจากนี้ยังกิจกรรมทางน้ำสุดสนุกให้เลือกเล่นกันมากมาย อาทิ บานาน่าโบ๊ท, ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น แต่ถ้าใครไม่อยากเปียกก็สามารถใช้บริการเรือท้องกระจกเพื่อนั่งชมความงามของท้องทะเลได้สะดวกมากขึ้น สะดวกสบายด้วยที่พักทั้งโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหารทะเล ที่หยิบเอาอาหารทะเลสดใหม่มาปรุงให้ลิ้มลองกันในราคาย่อมเยาอีกด้วย

7.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี

อีกหนึ่งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานพระราชดำริไว้ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2524 โดยที่ตั้งของโครงการตั้งอยู่บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

มีพื้นที่ครอบคลุมชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าว คุ้งกระเบนกว่า 4,000 ไร่ เพื่อทำการศึกษา วิจัย ทดลอง เพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่งทะเล อนุรักษ์พันธุ์ไม้ของป่าชายเลน พร้อมทั้งสร้างที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลภายในพื้นที่

และส่งเสริมให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความรู้ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามหลักการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง

สำหรับผู้ที่อยากพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมง สามารถเดินทางมาชมพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติกับไฮไลท์หลักคือ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานไม้ ระยะทาง 1.6 กิโลเมตรทอดตัวยาวเข้าไปยังป่าชายเลน

ภายในมีจุดให้ความรู้เกี่ยวกับป่า พันธุ์ไม้ การอนุรักษ์สัตว์อย่างละเอียด พร้อม ปิดท้ายด้วยหอดูเรือนยอดไม้ ความสูง 15 เมตร เพื่อชมวิวสวยของโครงการในมุมสูง

เวลาเปิดปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.

โทรศัพท์ : 0 3938 8116-8

8.หาดแหลมสิงห์ จ.จันทบุรี

หาดแหลมสิงห์ ตั้งอยู่ใน ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโลเมตร ถือเป็นอีกหนึ่งชายหาดสวยที่โดดเด่นไม่แพ้ที่อื่น ๆ เนื่องจากที่นี่สวยงามตั้งแต่หาดทราย ชายทะเล โขดหิน แถมยังอากาศบริสุทธิ์

อีกทั้งยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงมักเดินทางมาพักผ่อน เดินชมวิวบรรยากาศเย็นสบายริมทะเลเสมอ

สำหรับที่มาของชื่อแหลมสิงห์ มีที่มาจากภูเขาลูกหนึ่งชื่อ “เขาแหลมสิงห์” ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำจันทบุรี ซึ่งด้านหน้าเขามีหินเป็นแก่งเกาะยื่นล้ำออกไปในทะเล

และในบรรดาก้อนหินก็มีอยู่ 2 ก้อนลักษณะคล้ายตัวสิงโต มีหัว มีลำตัว มีหาง มีเท้า และดวงตา มีขนาดลำตัวยาว 6 เมตร กว้าง 1.5 เมตร สูงจากพื้นน้ำทะเล 2.5 เมตร ยืนคู่กันล้ำเข้าไปในทะเล โดยสิงโตคู่นี้เป็นที่สักการะนับถืออย่างยิ่งของชาวประมงอีกด้วย

9.โอเอซิส ซีเวิลด์ จ.จันทบุรี

โอเอซีส ซี เวิลด์ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 68 ไร่ ภายใน ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 25 กิโลเมตร เป็นสถานที่เพาะพันธุ์ และอนุรักษ์โลมา สายพันธุ์ไทยในน่านน้ำ

จันทบุรี ซึ่งมีอยู่ 2 พันธุ์ คือ โลมาหัวบาตร (โลมาอิระวดี) และโลมาปากขวด (โลมาสีชมพู) โดยเปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำกับโลมาด้วย จับได้ สัมผัสได้ นอกจากที่่นี่จะเป็นสถานที่ศึกษาธรรมชาติวงจรชีวิตของปลาโลมา การเพาะเลี้ยงปลาโลมา แล้วมีสวนสมุนไพร ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้สรรพคุณของ สมุนไพรแต่ละชนิด เช่น โด่ไม่รู้ล้ม จำเรียง อบเชย จันท์ชะมด เป็นต้น

ราคาบัตรเข้าชม :

– บัตรชมโลมาคนไทย ผู้ใหญ่ 130 บาท, เด็ก 80 บาท

– บัตรชมโลมาชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท, เด็ก 200 บาท

– บัตรเล่นน้ำกับโลมา (ไม่รวมบัตรชมโลมา) ผู้ใหญ่ 2,500 บาท, เด็ก 2,500 บาท

เวลาเปิดปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.

10.ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง

ชุมชนประแสเป็นชุมชนเก่าแก่สมัยอยุธยา ในพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง อยู่ห่างจากตัวเมืองระยองประมาณ 57 กิโลเมตร ดำรงชีวิตอยู่บริเวณริมแม่น้ำประแส ซึ่งมีต้นกำเนิดจากลำคลองหลายสาย อาทิ คลองไผ่ที่มีต้นน้ำอยู่ในเทือกเขาชะเมา ออกสู่ปากอ่าวไทยที่ทะเลแกลงบริเวณปากน้ำประแสฝั่งตะวันตก ด้วยความยาวของแม่น้ำกว่า 26 กิโลเมตร ทำให้ที่นี่กลายเป็นเส้นเลือดสายหลักหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คน

ปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นชุมชนประมงขนาดใหญ่ เป็นแหล่งการค้าด้านอาหารทะเล และเกษตรกรรมจากรุ่นสู่รุ่น สำหรับจุดท่องเที่ยวที่สำคัญได้แก่ บ้านแหลมสน หมู่บ้านชาวประมง วัดแหลมสนซึ่งมีเจดีย์เก่าแก่ที่ชาวเรือปากน้ำประแสให้ความเคารพ ตลาดประแส ชุมชนใหญ่มีบ้านเรือนหนาแน่น หาดแหลมสน เป็นหาดทรายที่ยื่นออกไปคล้ายแหลม มีป่าสนทะเลขึ้นอยู่เหนือชายหาด บรรยากาศเงียบสงบ เป็นต้น

วันหยุดนี้หากเพื่อนๆ กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนวิวสวยๆ และขับรถแวะเที่ยว แวะชม ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่นักเดินทางไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง